วันนี้ขอเอาใจน้อง ๆ ที่สนใจจะเรียนแพทย์ และอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะแพทยศาสตร์เรียนเกี่ยวกับอะไร เรียนกี่ปี มีสาขาอะไร มีมหาลัยฯ ไหนเปิดบ้าง หรือสามารถยื่นรอบไหนได้บ้าง หรือใครที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่และอยากรู้ว่าคณะแพทย์เหมาะกับน้อง ๆ มั้ย พี่สรุปมาให้ครบแล้ว ไปอ่านบทความด้วยกันเลยดีกว่า~
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleคณะแพทย์เรียนกี่ปี เรียนอะไรบ้าง ?
คณะแพทย์เรียนทั้งหมด 6 ปี การเรียนการสอนจะคล้ายกันเพราะมีแพทยสภาเป็นคนกำหนดหลักสูตรไว้แล้วว่าตลอดระยะเวลาที่เรียนแพทย์ว่าจะต้องเรียนอะไร ซึ่งพี่ได้สรุปภาพรวมของการเรียนแพทย์ทั้ง 6 ปีมาให้ทุกคนดูเป็นแนวทางแล้วนะว่าต้องเรียนอะไรบ้าง
คณะแพทยศาสตร์ ปี 1 : การเรียนการสอนของคณะแพทย์ตอนปี 1 ก็จะไม่ต่างจากคณะอื่นมากนักที่จะเริ่มจากการเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปอย่าง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ (แต่แน่นอนว่าจะยากขึ้นว่าตอนม.ปลายนะ)
คณะแพทยศาสตร์ ปี 2 : หลังจากที่ได้ปูพื้นฐานกันไปตอนปี 1 แล้ว เมื่อขึ้นปี 2 จะได้เรียนเกี่ยวกับความปกติของร่างกาย ศึกษาว่าร่างกายของเรามีระบบอะไรบ้าง มีการทำงานอย่างไร
ส่วนการเรียนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ เลคเชอร์ (เรียนแบบบรรยายในห้องเรียน หรือเรียนแบบทฤษฎี) และ Lab (เป็นการเรียนแบบภาคปฏิบัติที่นักศึกษาแพทย์จะได้เรียนจากการลงมือทำด้วยตัวเอง)
คณะแพทยศาสตร์ ปี 3 : การเรียนในชั้นปีที่ 3 นี้ก็ยังคงเรียนเกี่ยวกับระบบในร่างกายอยู่แต่เน้นเรื่องของความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย โรคและยาที่ใช้รักษา เพื่อเรียนรู้ว่าเมื่อร่างกายเกิดโรคต่าง ๆ แล้วจะเป็นอย่างไร มีอาการอย่างไรบ้าง
และมียาอะไรที่ใช้ในการรักษาได้บ้าง เป็นต้น
คณะแพทยศาสตร์ ปี 4 : เริ่มการใช้ชีวิตในโรงพยาบาล และเรียนรู้จากคนไข้จริง ๆ มีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และเขียนรายงานส่งเกี่ยวกับโรคที่ตรวจเจอ รวมถึงการอยู่เวร (การดูแลผู้ป่วยนอกเวลาราชการ) นอกจากนี้การเรียนก็จะแยกเป็น 4 ภาควิชาหลัก คือ สูตินรีเวช ศัลยกรรม อายุรกรรม กุมารเวช ซึ่งทุกคนจะต้องเรียนแบบสลับกันไป
คณะแพทยศาสตร์ ปี 5 : สำหรับการเรียนแพทย์ เมื่อขึ้นปีที่ 5 มาแล้ว จะได้เรียนเนื้อหาลึกขึ้นตามระดับชั้นที่สูงขึ้นไป นอกจากน้อง ๆ จะได้อยู่เวรและทำงานที่โรงพยาบาลเหมือนตอนปี 4 แล้ว ทุกคนจะได้ไปราวน์วอร์ดอื่น ๆ เพิ่มจากตอนปี 4 เช่น แผนกจิตเวช, แผนนิติเวช เป็นต้น (การขึ้นวอร์ดแต่ละสถาบันไม่เหมือนกันน้า)
คณะแพทยศาสตร์ ปี 6 : เมื่อเรียนมาถึงปี 6 น้อง ๆ จะถูกเรียกว่า Extern สิ่งที่จะเจอในปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์นี้ คือต้องดูแลคนไข้ทุกอย่างตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย การดูแลรักษาผู้ป่วย การสั่งยา หรือบางคนก็อาจจะได้เข้าห้องผ่าตัด และอยู่เวรเหมือนเดิม
อาจจะเป็นปีที่หนักไปสักหน่อยสำหรับ Extern เพราะนอกจากต้องเรียน ทำงาน และยังต้องเตรียมตัวสอบ
ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (NL) และใบประกอบวิชาชีพแพทย์ด้วย
Tips
ในการเรียนคณะแพทย์นั้น จะมีการสอบใบประกอบทั้งหมด 3 ครั้ง แบ่งออกเป็น
NL1 : จะสอบในช่วงหลังจบปี 3
NL2 : จะสอบในช่วงของปี 5
NL3 : จะสอบในช่วงปี 6
การสอบ NL จะเป็นข้อสอบกลาง โดยจะเน้นการสอบเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งการสอบจะเป็นข้อกาและโจทย์ภาษาอังกฤษทั้งหมดเลย
คณะแพทย์มีสาขาอะไรบ้าง ?
คณะแพทย์ ป.ตรี จะไม่ได้มีสาขาให้เลือกตั้งแต่ปี 1 เหมือนคณะทั่วไป ซึ่งน้อง ๆ จะต้องเรียนตามหลักสูตรให้ครบ 6 ปี และถ้าใครอยากจะเรียนต่อเฉพาะทางก็สามารถเลือกได้หลังจากที่เรียนจบแล้ว โดยมีสาขาให้เลือกเรียนเยอะมาก พี่รวบรวมมาให้ดูเป็นตัวอย่างตามนี้เลยน้าา (อ้างอิงข้อมูลจากแพทยสภา)
ตัวอย่างสาขาแพทย์เฉพาะทาง
- สาขาจิตเวชศาสตร์ (หมอจิตเวช))
- สาขานิติเวชศาสตร์ (หมอชันสูตร)
- สาขากุมารเวชศาสตร์ (หมอรักษาเด็ก)
- สาขาอายุรศาสตร์ (หมออายุรกรรม)
- สาขาจักษุวิทยา (หมอตา)
- ออร์โธปิดิกส์ (หมอกระดูก)
- วิสัญญีวิทยา (หมอดมยา)
- โสต คอ นาสิกวิทยา (หมอหู คอ จมูก)
- ศัลยศาสตร์ (หมอศัลยกรรม)
- เวชศาสตร์ฉุกเฉิน (หมอฉุกเฉิน)
- สูติศาสตร์และนารีเวชวิทยา (หมอสูติ)
อยากเข้าคณะแพทย์ ต้องใช้คะแนนอะไร สอบอะไรบ้าง ?
ข่าวดีสำหรับคนที่อยากเรียนแพทย์ทุกคน ปัจจุบันนี้น้อง ๆ สามารถยื่นสมัครคณะแพทยศาสตร์ได้ทุกรอบของระบบ TCAS เลยย แต่จะสอบวิชาอะไร ใช้คะแนนเท่าไหร่ รับทั้งหมดกี่คน คุณสมบัติยังไงบ้าง ต้องอ่านรายละเอียดจากเว็บไซต์ของมหาลัยฯ อีกทีน้าา
รอบ 1 Portfolio
น้อง ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าคณะแพทย์ก็มีรอบ Portfolio เหมือนกันน้า แต่จะเปิดรับเป็นโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการผลิตแพทย์นักวิทยาการข้อมูล, โครงการโอลิมปิกวิชาการ เป็นต้น
เกณฑ์ที่รับสมัครก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น กำหนด GPAX ขั้นต่ำ, มีผลงานที่เกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ หรือบางมหาลัยฯ ก็อาจจะต้องมีผลสอบอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่าง BMAT, SAT เป็นต้น
ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ทางมหาลัยฯ จะใส่ไว้ในประกาศรับสมัครแล้วว่าจะพิจารณาจากอะไรบ้าง ถ้าใครไหนสนใจยื่น
รอบพอร์ต ก็อย่าลืมติดตามกำหนดการรับสมัครและเกณฑ์ที่มหาลัยฯ กำหนดด้วยนะ
รอบ 2 Quota
ในรอบ 2 โควตานี้จะเป็นโครงการต่าง ๆ ที่ทางมหาลัยฯ จัดขึ้น เช่น โครงการโรงเรียนในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัย,
โครงการโอลิมปิกวิชาการ หรือ โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขหรือโรงพยาบาล ซึ่งโครงการแพทย์ชนบทนี้ หลังเรียนจบแล้ว จะต้องไปใช้ทุนในจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนา หรือกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
โดยส่วนใหญ่แล้วเกณฑ์การรับก็อาจจะมีทั้งคะแนนสอบหรือคุณสมบัติอื่น ๆ เฉพาะโครงการ เช่น โครงการภาคเหนือ ก็จะรับนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนของพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งแต่ละโครงการก็จะกำหนดไม่เหมือนกัน แนะนำให้น้อง ๆ ดูประกาศรับสมัครจากทางมหาลัยฯ ให้ดี ๆ เลยยย
รอบ 3 Admission (กสพท)
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากเริ่มเตรียมสอบเข้าแพทย์ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะจะได้พร้อมสอบก่อนใคร แต่ก็ยังไม่รู้ว่าควร
จะเตรียมสอบ TPAT1 ยังไง เนื่องจากเป็นวิชาที่ไม่มีสอนในหลักสูตรของโรงเรียน ทำให้กังวลว่าจะเตรียมตัวสอบไม่ถูก
หรือไม่แน่ใจว่าควรเก็บเนื้อหาหรือฝึกทำโจทย์ยังไงถึงจะตรงจุดที่สุด ใครที่กำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ วันนี้พี่มีตัวช่วยดี ๆ
มาแนะนำอย่างคอร์สเตรียมสอบ TPAT1 ที่พี่สอนร่วมกับ อ.ขลุ่ย และพี่หมออู๋ ให้เลยยย
โดยคอร์สนี้จะสอนครบทุกพาร์ตของ TPAT1 ตั้งแต่ปูพื้นฐานเนื้อหา (คนที่ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้) พาตะลุยโจทย์หลายระดับแบบจัดเต็ม พร้อมบอกเทคนิคและแนวคิดในการทำข้อสอบแต่ละพาร์ตที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้ทันเวลา
และเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนอีกด้วย
แนะนำให้เริ่มเตรียมสอบกันตั้งแต่ตอนนี้เลย น้อง ๆ จะได้มีเวลาทบทวนเนื้อหาและฝึกทำโจทย์ให้พร้อมยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ถ้าสมัครคอร์ส TPAT1 ตั้งแต่ตอนนี้ พี่มี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ 1 ชุด แถมไปให้พร้อมสิทธิพิเศษประจำเดือน
อีกมากมายด้วยน้า ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจคอร์ส TPAT1 สามารถ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดได้เลยย
รอบ 4 Direct Admission
สำหรับรอบ 4 รับตรงอิสระ หรือ Direct Admission ที่หลายคนอาจคิดว่าคงไม่รับคณะแพทย์แล้ว แต่ที่จริงก็อาจจะมีมหาลัยฯ ที่เปิดรับอยู่น้า ส่วนเกณฑ์ที่ใช้คัดเลือกก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับมหาลัยฯ เป็นคนกำหนด อาจจะใช้เกณฑ์ตามรอบที่ 3 หรือจะมีการเปลี่ยนแปลง คงต้องรอดูมหาลัยฯ ประกาศอีกที ถึงจะเปิดรับไม่เยอะแต่พี่ว่ารอบนี้ก็ถือเป็นอีก 1 รอบที่น่าสนใจเหมือนกันน้า
คณะแพทย์มีที่ไหนบ้าง ?
ปัจจุบันมีคณะแพทยศาสตร์ที่ทางแพทยสภาพรับรองทั้งหมด 27 แห่งแล้วน้าา แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ 23 แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชนอีก 4 แห่ง แต่จะมีมหาวิทยาลัยไหนบ้าง ดูตามด้านล่างนี้ได้เลยย
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศิริราชพยาบาล)
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (รพ.รามาธิบดี)
- คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุขมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
- สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (หลักสูตร 7 ปี)
- คณะแพทยศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
อ้างอิงข้อมูลจากแพทยสภา (ข้อมูลวันที่ 3/4/67 )
เรียนแพทย์ค่าเทอมกี่บาท ?
ค่าเทอมคณะแพทย์ของมหาลัยฯ รัฐบาลส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 40,000 บาท ซึ่งค่าเทอมแต่ละสถาบันจะไม่เท่ากันน้า อาจจะมีบางมหาลัยฯ ที่สูงกว่านี้ เพราะจริง ๆ การเรียนแพทยมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นรัฐบาลเลยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนคณะแพทยศาสตร์ของม.รัฐบาล ซึ่งทำให้ค่าเทอมที่น้อง ๆ จ่ายไม่ได้สูงมากจนเกินไป
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อ่านบทความนี้จบแล้วอยากจะรู้เกี่ยวกับคณะแพทย์ให้ลึกขึ้น ก็สามารถตามไปอ่านบทความรีวิวการเป็นแพทย์ตั้งแต่เตรียมตัวสอบ ฝึกงาน ไปจนถึงการทำงานได้เลย พี่หมออู๋ (ติวเตอร์ TPAT1 พาร์ตจริยธรรมแพทย์ของพวกเราเองง) มาแชร์ประสบการณ์ไว้แบบครบ !! >> รีวิวชีวิตของการเป็นแพทย์ ตั้งแต่เริ่มเตรียมตัวสอบ จนทำงานเป็นแพทย์ ต้องเจออะไรบ้าง ?
ถ้าใครมีความฝันอยากเรียนแพทย์ อยากช่วยชีวิตคน และได้ทำอาชีพที่มีโอกาสตกงานน้อยมาก การเรียนหมอก็เป็นอีก 1 อาชีพที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าจะสอบเข้าหรือเรียนหนักมาก แต่ถ้าทุกคนมีความมุ่งมั่นพยายาม ก็จะทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน พี่ขออวยพรให้ทุกคนผ่านอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่นและทำตามความฝันให้สำเร็จให้ได้น้า
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro