รีวิวคณะครุศาสตร์ เรียนอะไรบ้าง

ใครอยากเป็นคุณครูบ้าง  ยกมือขึ้นนน เชื่อว่าคงมีน้อง ๆ หลายคนสนใจและอยากทำอาชีพนี้อยู่เยอะมากแน่ ๆ วันนี้ก็เลยจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ คณะครุศาสตร์ / คณะศึกษาศาสตร์ กันให้มากขึ้นผ่านบทความที่พี่รวบรวมข้อมูลมาให้ครบ ทั้ง คณะครุศาสตร์เรียนเกี่ยวกับอะไร มีสาขาไหนบ้าง และอื่น ๆ อีกมากมายรอให้น้อง ๆ ไปหาคำตอบด้วยกัน พร้อมบทสัมภาษณ์จากรุ่นพี่คณะครุศาสตร์ตัวจริงที่จะมาแชร์ประสบการณ์ให้พวกเราฟัง ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลยยย

สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย

คณะครุศาสตร์ เรียนอะไรบ้าง ?

คณะครุศาสตร์ จะเรียนเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน รวมถึงการควบคุมชั้นเรียน การวัดและประเมินผลทางการศึกษา การจัดทำสื่อประกอบการสอนตามกลุ่มเป้าหมายในแต่ละสาขา  ตัวอย่างวิชาที่เรียนก็จะประมาณนี้เลยยย

ปี 1 : การเรียนในชั้นปี 1 จะได้เริ่มเรียนเกี่ยวกับวิชาชีพครูและวิชาพื้นฐานที่มหาลัยฯ หรือของสาขานั้น ๆ สมมติถ้าน้อง ๆ เลือกเรียนครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขามัธยมศึกษา เอกคณิตศาสตร์ นอกจากวิชาทั่วไปที่มหาลัยฯ กำหนดแล้ว
วิชาพื้นฐานที่จะได้เรียนเพิ่มเติม คือ

  • หลักคณิตศาสตร์
  • ทฤษฎีสมการเบื้องต้น
  • แคลคูลัส ซึ่งเป็นวิชาที่เรียนต่อยอดมาจาก คณิต ม.ปลาย แต่เนื้อหามีความเข้มข้นขึ้นนั่นเอง

ปี 2 : เมื่อขึ้นปี 2 เนื้อหาจะเข้มข้มกว่าตอนปี 1 ซึ่งในชั้นปีนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนเจาะลึกเกี่ยวกับวิชาเฉพาะของสาขาที่เลือกมากขึ้น เช่น เลือกเรียนมัธยมศึกษา เอกคณิตศาสตร์ ก็จะได้เรียน

  • พีชคณิตเชิงเส้น
  • เรขาคณิต
  • ความน่าจะเป็นและสถิติ

หรือเลือกเรียนสาขาปฐมวัย ก็จะได้เรียน

  • การส่งเสริมภาษาและการรู้หนังสือขั้นต้นสำหรับเด็กปฐมวัย
  • การส่งเสริมสุขภาวะของเด็กปฐมวัย

ปี 3 : ชั้นปี 3 จะค่อนข้างเรียนเยอะขึ้นจากปีที่ผ่านมาหน่อยน้า เพราะว่าในปีนี้น้อง ๆ จะได้เรียนวิชาเกี่ยวกับการสอนและวิชาเฉพาะมากขึ้น เช่น วิชาของปี 3 สาขาปฐมวัย ก็จะเรียนเกี่ยวกับ

  • นวัตกรรมการสอนและการเลี้ยงดูเด็กประถม

ปี 4 : หลังจากที่ได้มีการปรับหลักสูตรใหม่ให้เป็น 4 ปี ทำให้จากเดิมที่คนเรียนคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ต้องฝึกงาน 2 เทอม จะเหลือแค่เทอมเดียว ส่วนอีกเทอมก็แล้วแต่ว่ามหาลัยฯ กำหนด ซึ่งบางที่ น้อง ๆ ก็อาจจะได้เรียนเป็นวิชาเสรีแทน

คณะครุศาสตร์ มีสาขาอะไรบ้าง ?

สาขาของคณะครุศาสตร์ / คณะศึกษาศาสตร์ จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับมหาลัยฯ จะตั้งชื่อยังไงหรือเปิดสอนหลักสูตรไหนบ้าง ซึ่งสาขาที่พี่เอามาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักในวันนี้เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นน้า 

สาขาการศึกษาปฐมวัย

ครุศาสตร์ สาขาปฐมวัย จะเน้นการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับเด็กอนุบาล และเนื่องจากเป็นการสอนเด็กเล็ก ทำให้คนที่เลือกเรียนสาขานี้จะไม่ได้เน้นเรียนเนื้อหาวิชาการเท่าไร แต่จะเน้นในเรื่องของการพัฒนาการเด็กเล็กในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์, ศิลปะสำหรับเด็กเล็ก เป็นต้น

สาขาประถมศึกษา

ครุศาสตร์ สาขาประถมศึกษา จะเป็นสาขาที่ต้องสอนเด็กโตกว่าปฐมวัยคือระดับป.1-ป.6 ดังนั้นนอกจากจะต้องเรียนวิชาการสอน การจัดหลักสูตร ที่เป็นวิชาชีพครู น้อง ๆ ที่เลือกสาขานี้ก็จะยังต้องเรียนทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อปูพื้นฐานให้กับเด็ก ๆ ชั้นประถมก่อนที่จะไปลงลึกในระดับชั้นมัธยมนั่นเอง

สาขามัธยมศึกษา

ครุศาสตร์ สาขามัธยมศึกษา จะแตกต่างกับประถมศึกษาตรงที่คนที่เลือกสาขานี้จะไม่ต้องเรียนทุกวิชาเหมือนสาขาประถมศึกษา แต่น้อง ๆ จะต้องเลือกเอกที่สนใจว่าอยากจะเป็นครูสอนวิชาอะไร เพราะน้อง ๆ จะต้องสอนเนื้อหาที่ลึกมากขึ้นสำหรับเด็กมัธยมเลยไม่สามารถเรียนทุกวิชาแบบพื้นฐานได้

สาขาศิลปศึกษา

ครุศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา จะเป็นสาขาที่เน้นสอนให้เป็นครูศิลปะตามชื่อเลย นั่นหมายความว่านอกจากน้อง ๆ จะต้องเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลปะ ศิลปวิจารณ์ สุนทรียศาสตร์ ศิลปะปฏิบัติ และยังต้องเรียนวิชาชีพครู อย่างเช่น การสอนศิลปะสำหรับครู เพื่อที่จะได้นำความรู้ทั้งหมดไปถ่ายทอดให้กับเด็ก ๆ อีกทีหนึ่งนั่นเอง

สาขาดนตรีศึกษา

ครุศาสตร์ สาขาดนตรีศึกษา บางมหาลัยฯ จะเป็นสาขาดนตรีศึกษาเฉย ๆ แต่บางที่อย่างจุฬาฯ จะมีแยกเอกเป็น ดนตรีศึกษา, การสอนดนตรีไทย, การสอนดนตรีสากล ซึ่งเนื้อหาวิชาเรียนก็จะเกี่ยวกับวิชาดนตรีและวิชาชีพครูควบคู่กันไปด้วย

สาขาสุขศึกษาและพลศึกษา

สำหรับสาขานี้ในคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ บางมหาวิทยาลัยจะแยกเป็นเอกเดี่ยว คือมีแค่สาขาพลศึกษา แต่บางที่ก็จะเป็นเอกคู่ที่มีวิชาสุขศึกษาด้วย แต่โดยรวมแล้วคนที่เลือกเรียนสาขานี้ก็จะได้เรียนเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพให้กับเด็กนักเรียน และน้อง ๆ ก็ยังต้องเรียนวิชาชีพครูอย่างเช่น จิตวิทยาสำหรับครู การพัฒนาหลักสูตร หรือ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยนะ

สาขาจิตวิทยาการปรึกษา

ศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยาการปรึกษา ถ้าจบไปเป็นครู ก็จะเป็นครูแนะแนว น้อง ๆ จะไม่ได้สอนวิชาการเหมือนครู
วิชาอื่น ๆ แต่เป็นคนที่จะคอยแนะนำและให้คำปรึกษา ตัวอย่างวิชาที่เรียนก็อย่างเช่น สุขภาพจิตในโรงเรียน, จิตวิทยาการจูงใจในการเรียนการสอน, การปรับพฤติกรรมผู้เรียน เป็นต้น 

คณะครุศาสตร์ มีที่ไหนบ้าง ?

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งคณะที่มีเปิดการเรียนการสอนค่อนข้างเยอะเลยในประเทศไทย ดังนั้นพี่ขอ
ยกตัวอย่างมาเฉพาะบางมหาลัยฯ เท่านั้นน้าา จะมีมหาลัยฯ ไหนบ้าง ไปดูกัน

  • คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คณะครุศาสตร์ เรียนกี่ปี ? เรียนครู 4 ปี กับ 5 ปี ต่างกันยังไง ?

ปัจจุบัน คณะครุศาสตร์ จะต้องเรียน 4 ปี เพราะหลักสูตรเพิ่งถูกเปลี่ยนจาก 5 ปีมาเป็น 4 ปี ไม่นานนี้เอง ! (ถึงแม้ว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นหลักสูตรใหม่กันเกือบหมดแล้ว แต่ยังมีบางมหาลัยฯ ที่ใช้หลักสูตรเก่าอยู่เหมือนกันน้า) โดยความแตกต่างหลัก ๆ ของการเรียนครู 4 ปีกับ 5 ปี ก็จะมีตามนี้เลย 

  1. การฝึกงาน – หลักสูตร 5 ปี จะได้เรียน 4 ปีเต็มแล้วไปฝึกสอน 2 เทอม ในขณะที่หลักสูตร 4 ปีจะเรียนแค่ 3 ปี แล้วออกไปฝึกงาน 1 เทอม
  2. การสอบใบประกอบ – หลักสูตร 5 ปี ไม่ต้องสอบใบประกอบ แต่หลักสูตร 4 ปี ต้องไปสอบใบประกอบวิชาชีพครู
  3. วิชาเรียน – เพราะการปรับหลักสูตรทำให้วิชาบางวิชาถูกลด หรือถูกรวมกับวิชาอื่น ทำให้เนื้อหาในการเรียนถูกบีบ น้อง ๆ เลยต้องเรียนหนักขึ้นนั่นเอง

คณะครุศาสตร์ ใช้คะแนนอะไรบ้าง ?

สำหรับ TCAS67 น้อง ๆ จะต้องสอบวิชา TGAT (ความถนัดทั่วไป) TPAT5 (ความถนัดทางวิชาชีพครู) และ A-Level ซึ่งคะแนนและเกณฑ์การรับของแต่ละสาขาและมหาลัยฯ จะต่างกันนะ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละสถาบันจะกำหนดยังไง

ตัวอย่างคะแนนคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ สาขาประถมศึกษา

แบ่งเป็น 3 รูปแบบดังนี้

TGAT 20% + TPAT5 30% + คณิต1 25% + วิทย์ประยุกต์ 25%  
TGAT 20% + TPAT5 30% + สังคม 25% + ภาษาไทย 25%
TGAT 20% + TPAT5 30% + ภาษาอังกฤษ 25% + คณิต 2 25%

จากที่น้อง ๆ ดูเกณฑ์คะแนนที่พี่ยกตัวอย่างมา คงจะเห็นแล้วว่าคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์คะแนนไว้หลายวิชาเลย ไม่ว่าจะเป็น TGAT / TPAT / A-Level  นั่นหมายความว่าน้อง ๆ ต้องเตรียมสอบหลายวิชาเช่นกัน ซึ่ง
อาจจะใช้เวลาค่อนข้างเยอะ และบางวิชาเราก็อาจจะเริ่มเตรียมตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเก็บเนื้อหาหรือทำโจทย์ยังไง

วันนี้พี่ก็มีตัวช่วยในการเตรียมสอบเข้ามหาลัยฯ มาแนะนำทุกคนเพียบเลยน้าา ทั้ง TGAT 2,3 / A-Level คณิต 1,2  /
A-Level ภาษาไทย / A-Level สังคม โดยแต่ละคอร์สจะสอนเนื้อหาแบบอัดแน่นโดยเริ่มจากปูพื้นฐานและพาทุกคนตะลุยโจทย์หลากหลายแบบไต่ระดับความยาก คนที่พื้นฐานยังไม่แน่นก็สามารถเรียนตามทันและเก่งขึ้นได้ (กระซิบว่าถ้าสมัครเรียนตั้งแต่ตอนนี้ มีข้อสอบอัปเดตฟรีให้ถึงปีล่าสุดเลยน้าา) ใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก เลยย

อยากเรียนคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์เรียนสายไหน ?

ส่วนใหญ่จะไม่ได้กำหนด ยกเว้นบางสาขาหรือบางเอกที่เป็นวิชาวิทย์ – คณิต ซึ่งน้อง ๆ ที่เรียนสายศิลป์ – ภาษาก็อาจจะสมัครไม่ได้ ดังนั้นอย่าลืมเช็กคุณสมบัติของคณะ / สาขาที่จะยื่นกันด้วยน้าว่ามีคุณสมบัติตามที่มหาลัยฯ กำหนดรึเปล่า

หลังเรียนจบต้องสอบใบประกอบวิชาชีพครูเลยไหม สอบวิชาอะไรบ้าง ?

ถ้าเป็นหลักสูตรเดิมที่เรียน 5 ปีจะไม่ต้องสอบใบประกอบ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นหลักสูตร 4 ปีแล้ว ทำให้ถ้าคนที่เรียนครู 4 ปี ต้องสอบใบประกอบด้วยน้า ซึ่งจะสอบเลยหรือหาเวลาเตรียมตัวก่อนก็ได้ ซึ่งปกติจะเปิดให้สอบปีละ 2 ครั้ง ส่วนวิชาที่ต้องสอบนั้นก็จะมีตามนี้เลย

  • วิชาชีพครู
  • วิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
  • วิชาการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
  • วิชาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 

สำหรับบางมหาลัยฯ ที่ยังมีหลักสูตร 5 ปีอยู่ ก็ยังไม่ต้องสอบใบประกอบเหมือนเดิม แค่ดูว่าหลักสูตรที่เรียนนั้นผ่านการรับรองโดยคุรุสภาหรือเปล่านั่นเองง 

คณะครุศาสตร์ จบมาทำงานอะไรได้บ้าง ?

หลายคนก็คงจะตอบคำถามนี้ได้ทันทีว่า จบครุศาสตร์ ก็ต้องไปเป็นครูสิ ! แต่น้อง ๆ รู้กันรึเปล่าว่าถ้าเราเรียนจบแล้วแต่ไม่อยากเป็นครูประจำโรงเรียนต่าง ๆ ก็สามารถเลือกเส้นทางอื่นให้กับตัวเองได้ เช่น เป็นติวเตอร์ หรือทำอาชีพที่เกี่ยวกับการศึกษาอื่น ๆ อีกมากมาย 

แต่ถ้าใครไม่อยากทำงานเกี่ยวกับด้านการศึกษาเลย ก็สามารถต่อยอดไปทำอาชีพสายอื่น ๆ ได้อีกมากมายเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทำธุรกิจส่วนตัว ทำงานสายบันเทิงต่าง ๆ อย่างเช่นเป็น พิธีกร ก็ได้ด้วย ! 

พอได้รู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ไปแล้ว น้อง ๆ หลายคนก็คงจะอยากรู้เพิ่มแล้วใช่ไหม ว่าถ้าเข้าไปเรียนในคณะจริง ๆ จะเป็นยังไงบ้าง ต้องเตรียมตัวสอบยังไง ฝึกงานปีไหน และคนที่จะมาตอบทุกข้อสงสัยให้กับ
น้อง ๆ ในวันนี้ก็คือ “พี่อิงกี้” รุ่นพี่คนเก่งจากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ไปดูกันเลยว่าพี่อิงกี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนและไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ยังไงบ้าง ! 

สวัสดีน้าทุกคน พี่ชื่ออิงกี้ อิงตะวัน ทองมโนกูร เรียนอยู่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 เป็น Dek64 จบจากสายการเรียนศิลป์ – ภาษาจีนครับ 

วิธีเตรียมตัวเข้าคณะครุศาสตร์และค้นหาตัวเอง

มีวิธีการค้นหาตัวเองยังไงบ้าง ? รู้ตัวตอนไหนว่าอยากเรียนคณะครุศาสตร์ ?

ตั้งแต่ตอนประถมเลย เพราะเราเห็นครูยืนอยู่หน้าชั้นเรียนแล้วรู้สึกว่าเท่ดี พอโตขึ้นมีโอกาสได้ไปเรียนพิเศษ ก็เห็นสไตล์การสอนของติวเตอร์ที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนสามารถสอนให้เราเข้าใจได้ในเวลาสั้น ๆ ทำให้เราประทับใจ จนเกิดเป็น
แรงบันดาลใจ อยากจะทำให้ได้อย่างนั้นบ้าง เราเลยตั้งเป้าหมายการเรียนว่า ถ้าเรียนจบไปต้องทำงานในแวดวงการศึกษานี่แหละ ก็เลยเลือกคณะครุศาสตร์

แล้วทำไมถึงเลือกเรียนครุศาสตร์ สาขาประถมศึกษา ?

เริ่มแรกเลยเราอยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นวิชาที่เชื่อมโยงกับเรื่องอื่น ๆ ได้เยอะ เลยอยากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ให้กับเด็ก ซึ่งตอนแรกเราก็ชอบการสอนเด็กมัธยมเหมือนกัน แต่พอมีโอกาสได้ลองสอนเด็กประถมก็ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งท้าทายเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้มีหน้าที่สอนหนังสืออย่างเดียว แต่เราจะต้องรู้วิธีดูแลเด็ก ๆ ด้วย 

ซึ่งเรามองว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการต่อยอดกับอาชีพครูในอนาคต ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือเรารู้สึกว่าเด็กประถมมันเป็นช่วงรอยต่อก่อนจะโตไปเป็นวัยรุ่น เราเลยอยากเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้และดูแลเด็ก ๆ ตั้งแต่ตอนนี้

ตอนเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยฯ อ่านหนังสือเยอะมั้ย ?

มีเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษและความถนัดทางวิชาชีพครู เพราะข้อสอบ PAT5 (หรือ TPAT5) เน้นแสดงความคิดเห็นแล้วก็เดาทางยาก อาจส่งผลต่อเวลาในการทำข้อสอบ ดังนั้นเลยต้องหาเทคนิคเพื่อให้สามารถทำความเข้าใจได้อย่าง
ง่าย ๆ ไม่เสียเวลาเวลาเจอข้อสอบจริง

นอกเหนือจากการเรียนพิเศษแล้ว ก็จะเน้นดูคลิปเฉลยข้อสอบ ทำความเข้าใจทีละข้อ และลองทำข้อสอบจริงซะเป็น
ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวิชาสังคมศึกษาและภาษาอังกฤษ 

ส่วน GAT (หรือ TGAT) เน้นการทำข้อสอบแล้วเช็กคะแนน เพื่อดูว่าเราพลาดตรงไหนมากที่สุด แล้วเราก็จะแก้เฉพาะจุด
ไปเลย เช่น การอ่าน เพราะตอนนั้นเราไม่เก่งการสรุปความมาก ๆ เราจะพยายามแก้โดยการอ่านและตีความบทความ
นั้น ๆ ซ้ำอีกรอบ 

แบ่งเวลาอ่านหนังสือสอบที่โรงเรียนกับสอบเข้ามหาลัยฯ ยังไง ?

เราว่าการอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ต้องสะสมมาเรื่อย ๆ  ส่วนตัวเราไม่ได้ทำตารางอ่านหนังสือ แต่เมื่อถึงช่วงสอบก็จะให้ความสำคัญกับการสอบที่โรงเรียนก่อน เพราะมันมีผลต่อเกรดด้วย โดยเฉพาะถ้าใช้เกรดในการยื่นคะแนนด้วยแล้ว พอสอบที่โรงเรียนเสร็จก็ค่อยกลับมาอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยฯ ต่อไป

ช่วงที่อ่านหนังสือหนัก ๆ เคยรู้สึกหมดไฟบ้างไหม ? แล้วมีวิธีการแก้ไขยังไง ?

มีครับ จริงอยู่ที่เราควรมีวินัยกับตัวเอง แต่ก็เราก็ควรแบ่งเวลาเพื่อพักผ่อนบ้าง ออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เช่น
ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา หรืออีก 1 วิธีที่เราทำบ่อย ๆ คือ อยู่กับเพื่อน เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว อย่างน้อยก็มีเพื่อนอ่านหนังสือและทำข้อสอบไปด้วยกัน  

การเรียนคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ในมหาลัยฯ

คณะครุศาสตร์ สาขาประถมศึกษา เรียนเกี่ยวกับอะไร ?

สำหรับการเรียนเป็นครูประถม เราก็จะเน้นเรียนวิธีการทำและออกแบบสื่อการสอน เราจะได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์สื่อต่าง ๆ ที่จะเอาไว้ใช้สอนเด็ก 

ส่วนวิชาของคณะที่จะต้องเจอตั้งแต่ปีแรก คือวิชาชีพครู เราต้องเรียนเพื่อให้รู้ว่าครูควรจะมีทักษะอะไร ควรมีทัศนคติกับเด็กยังไง หรือควรจะปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กยังไง เรื่องนี้สำคัญมากเลย เพราะเด็กในช่วงวัยนี้จะยังแยกแยะสิ่งที่ถูกผิด
ไม่ได้ ต้องมีครูคอยช่วย 

และวิชาของคณะ หลัก ๆ จะเป็นคณะที่เกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก จิตวิทยาการสอน จะได้เรียนกันตั้งแต่ช่วงปี 1 เลย เป็นวิชาที่สำคัญสำหรับการเป็นครูเหมือนกัน เพราะครูจะต้องรู้ความต้องการของเด็ก ๆ รู้ว่าจะสอนเด็กด้วยวิธีไหน และอีกวิชาที่คิดว่าคนที่จะเป็นครูต้องได้เรียนกันหมดคือวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา เพราะจะเป็นวิชาที่ใช้ประเมินด็ก ๆ ที่สอน

รีวิวบรรยากาศการเรียนครุศาสตร์

วิชาของคณะบางตัวอาจเกินความสามารถของเราจนทำให้หมดกำลังใจในการเรียนบางครั้ง  ส่วนที่เราเรียนแล้วรู้สึกทำไมมันจำเยอะจังเลย คือ วิชาจิตวิทยาการศึกษาฯ แต่ในความเป็นจริง วิชานี้มันทำให้เราเข้าใจในตัวเด็กมากขึ้น

ส่วนสังคมในมหาวิทยาลัย เรามองว่าโอเคมาก ด้วยความที่เราไม่เคยรู้จักกัน แต่หลาย ๆ คนยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ให้โอกาสและพื้นที่ในการแสดงความสามารถของคนออกมาจริง ๆ ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจและขอบคุณตัวเองที่เลือกเข้ามาเรียนในคณะนี้อย่างมาก

ฝึกสอนปีไหน ต้องทำอะไรบ้าง ?

จะเริ่มฝึกสอบตั้งแต่ ปี 4 ช่วงที่ฝึกสอนก็จะตรงกับการเปิด – ปิดภาคการศึกษาของเด็กเลย แต่เราอาจจะต้องไปเตรียมก่อนประมาณสัก 1 อาทิตย์เพื่อเตรียมตัวก่อนสอนจริง หน้าที่ของเราที่จะได้ทำก็เหมือนครูทั่วไปเลย คือเป็นครูประจำชั้น ครูประจำวิชา ครูยืนเวร แล้วแต่ว่าโรงเรียนจะมอบหมายงานอะไรให้  

ใน Part ของการสอน เขาจะมีให้เลือกตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าตอนนี้โรงเรียนต้องการนิสิตฝึกสอนวิชาอะไร ถ้าไม่มีวิชาที่เราอยากสอนก็อาจจะต้องย้ายโรงเรียน แต่ที่เราจะเลือกไม่ได้คือระดับชั้น เพราะการเรียนเป็นครูประถม ต้องสอนให้ได้หมดตั้งแต่ ป.1-ป.6  

เมื่อถึงช่วงที่เด็กปิดเทอม หน้าที่ของเราก็ยังไม่หมด เพราะเราต้องตรวจข้อสอบที่เราเป็นคนออกเอง และสุดท้ายคือเราจะต้องทำวิจัยเป็นผลปฏิบัติการด้วยว่าที่เราไปฝึกสอนมาเป็นยังไงบ้าง เราทำอะไรบ้างขณะที่ฝึกสอน

Q&A รวมคำถามเกี่ยวกับคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์

คณะครุศาสตร์แตกต่างจากคณะศึกษาศาสตร์ยังไง ?

อาจจะต่างกันเฉพาะชื่อ แต่เนื้อหาภายในมีความคล้ายกัน เพราะสุดท้ายผลลัพธ์ของคณะก็คือต้องการผลิตครูที่มีคุณภาพไปมอบความรู้ให้กับเด็ก ๆ เหมือนกันเลยย

คณะครุศาสตร์แตกต่างจากคณะศึกษาศาสตร์ยังไง ?

ไม่จำเป็นเลย ขอแค่รักที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แล้วก็สามารถถ่ายทอดความรู้ของตัวเองให้คนอื่นรู้ด้วยได้  ที่สำคัญคือต้องเข้าใจเด็ก ๆ  

ถ้าไม่ได้เรียนจบจากคณะครุศาสตร์ สามารถเป็นครูได้ไหม ?

ถ้าอยากเป็นครู จบครูจะเวิร์คมากกว่าในมุมมองของเรา แต่ถ้าใครที่ไม่ได้จบครู แล้วอยากทำ เราว่าทำได้นะ แต่อาจจะต้องเรียนเพิ่ม เพราะการเป็นครูไม่ได้รู้แค่วิชาการอย่างเดียว แต่ยังมีวิชาชีพครูที่ต้องเรียนรู้ด้วย เพื่อให้เข้าใจการสอนและเข้าใจเด็ก 

ให้กำลังใจน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้าคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์

สำหรับใครที่เล็งๆ คณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์อยู่ พี่อิงกี้เป็นอีกหนึ่งกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น้อง ๆ ได้เดินทางตามความฝันอย่างเต็มที่ ถ้าน้อง ๆ เต็มใจที่จะมอบความรักความรู้ให้ผู้เรียน พี่ก็ต้อนรับสู่คณะครุศาสตร์เลยครับ

 รีวิวคณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ที่พี่เอามาฝากน้อง ๆ ทุกคนวันนี้ถูกใจกันไหมเอ่ย สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วฝันอยากจะเป็นคุณครูคงจะได้ข้อมูลในการเลือกสาขาและการเตรียมตัวสอบไป ส่วนใครที่ยังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง ไม่แน่ใจว่าจะเลือกเรียนคณะไหนต่อดี พี่ก็มีบทความรีวิว/แนะนำคณะจากรุ่นพี่อีกเยอะแยะเลย พี่หวังว่าบทความพวกนี้จะช่วยให้
น้อง ๆ มีตัวเลือกในใจเพิ่มมากขึ้นน้าา

ดูคลิปรีวิวคณะครุศาสตร์

ดูคลิปรีวิวการเรียนของคณะอื่น ๆ ได้ที่ YouTube : SmartMathPro

บทความ แนะนำ

บทความ แนะนำ

5-1
อยากเรียนนิติศาสตร์ เตรียมตัวยังไงดี ? รีวิวจากรุ่นพี่ตัวจริง !
คณะรัฐศาสตร์เรียนเกี่ยวกับอะไร
อยากเรียนรัฐศาสตร์ต้องเตรียมตัวยังไง? รีวิวจัดเต็มจากรุ่นพี่คณะรัฐศาสตร์!
คณะเศรษฐศาสตร์เรียนอะไรบ้าง
เศรษฐศาสตร์ เรียนอะไร? จบมาทำงานอะไร? พร้อมรีวิวจากรุ่นพี่ !!
Dek68 จะสอบเข้ามหาลัยฯ ต้องเตรียมตัวยังไง ?
Dek68 จะเข้ามหาลัยฯ ควรเริ่มยังไง? สรุปทุกขั้นตอนควรรู้ของ TCAS68
-TCAS68
TCAS68 สอบวันไหน ? สรุปตารางสอบ Dek68 พร้อมสรุปข่าว TCAS ล่าสุด
เตรียมตัวอ่านหนังสือ TCAS68 ยังไงให้สอบติด
TCAS68 อยากสอบติด เตรียมตัวอ่านหนังสือยังไง? Dek68 ควรอ่าน

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Line : @smartmathpronews

รวมถึงข่าวสารต่าง ๆ อัปเดตอย่างเรียลไทม์

FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น 

IG : pan_smartmathpro

Twitter : @PanSmartMathPro 

Tiktok : @pan_smartmathpro

Share