TGAT2, TGAT3 คืออะไร ? น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่า ข้อสอบ 2
พาร์ตนี้คืออะไร ? แตกต่างกันยังไง ? TGAT2, TGAT3 ออกสอบอะไรบ้าง ? รวมถึงคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย และเพื่อคลายข้อสงสัยของทุกคน วันนี้พี่ก็เลยเตรียมเนื้อหาเกี่ยวกับ TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล และ TGAT3 สมรรถนะการทำงานในอนาคต มาอธิบายแบบละเอียดยิบทุกหัวข้อให้เข้าใจกันก่อนจะไปสอบจริง !!

นอกจากนี้พี่ยังมีคลิปติว TGAT2, TGAT3, เทคนิคเตรียมสอบ รวมไปถึงข้อสอบแจกฟรีให้ทุกคนได้ลองทำด้วยยย ถ้าใครพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยย !!

TGAT (Thai General Aptitude Test) คือ การสอบเพื่อวัดสมรรถนะทั่วไป ใช้เป็นหนึ่งในคะแนนสำหรับยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS ซึ่งจะแตกต่างจากข้อสอบ GAT ของระบบเก่าน้าา อย่าจำสับสน โดยข้อสอบ TGAT จะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ต ประกอบด้วย

  1. TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ ( English communication )
  2. TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical and Logical Thinking)
  3. TGAT3 สมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies)

จริง ๆ แล้ว ข้อสอบ TGAT กับข้อสอบ GAT ไม่เหมือนกันเลย แถมมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็ต้องใช้คะแนน TGAT ทั้ง 3 พาร์ตในการยื่นสอบเข้าด้วย ดังนั้นใครที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ต้องเตรียมตัวสอบ TGAT ให้ดี ๆ เลยนะ !! โดยพี่จะพาทุกคนมารู้จักกับข้อสอบ TGAT 2 กันก่อน

TGAT2 TGAT3 ออกสอบอะไรบ้าง ?

TGAT2 TGAT3 ออกสอบอะไรบ้าง

TGAT2 คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?

 TGAT 2 คือ ข้อสอบพาร์ตการคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) เป็นข้อสอบที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ เน้นความเข้าใจ แบ่งออกเป็น 4 พาร์ต โดยแต่ละพาร์ตจะเน้นทักษะการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจที่ต่างกัน ดังนี้

  1. ความสามารถทางภาษา
  2. ความสามารถทางตัวเลข
  3. ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
  4. ความสามารถทางเหตุผล

ซึ่งข้อสอบ TGAT2 เป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก คะแนนเต็ม 100 คะแนน มีเวลาทำข้อสอบ 3 ชั่วโมง (สามารถแบ่งเวลาทำข้อสอบกับพาร์ตอื่น ๆ เองได้เลยย) และถ้าใครอยากรู้ว่าแต่ละพาร์ตออกสอบประมาณไหน, มีความแตกต่างกันอย่างไร พี่ได้รวมไว้ให้ข้างล่างหมดแล้ว มาดูพร้อมกันไปทีละพาร์ตเลยน้า

1. TGAT2 ความสามารถทางภาษา

ความสามารถในการสื่อความหมาย คือ การวัดความรู้และทักษะการเลือกใช้คำให้ถูกต้องตามบริบทของโจทย์เพราะแต่ละคำมีหน้าที่แตกต่างกันเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกัน ย่อมสื่อความหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งน้อง ๆ สามารถดูได้จากตัวอย่างด้านล่างนี้ได้เลย 

(เครดิต : รูปภาพจาก mytcas.com)

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถในการสื่อความหมาย

ความสามารถในการสื่อความหมาย โจทย์ Tgat2

ที่ถามว่าข้อใดมีความหมายแคบที่สุด ตัวเลือกข้อ 1-4 น้องๆ จะสังเกตได้ว่าโจทย์จงใจใช้คำว่า “เครื่อง” ซ้ำกัน เพื่อให้เราได้วิเคราะห์ตามบริบทว่า คำว่า “เครื่อง” ในบริบทนี้เป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่ และยังมีการใช้คำว่า “นี้” เพื่อทำให้มีความหมายแคบกว่าอันอื่นด้วย

ความสามารถในการใช้ภาษา คือ การวัดความรู้ ความสามารถในการเขียน พูดหรือสื่อสารออกไปอย่างมีกาลเทศะตามสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อน้อง ๆ เป็นผู้พูดหรือผู้ฟัง รวมไปถึงต้องรู้ว่าหัวข้อที่กำลังสนทนาเป็นเรื่องอะไรเพื่อที่จะได้ใช้ถ้อยคำอย่างเหมาะสม

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถในการใช้ภาษา

โจทย์ ความสามารถในการใช้ภาษา Tgat2

วามสามารถในการอ่าน คือ การวัดความสามารถในการอ่านจับใจความ ตีความ และสรุปความ รวมไปถึงหาจุดประสงค์ เจตนา และอารมณ์ของผู้เขียนซึ่งอาจจะสามารถอนุมานได้หรืออนุมานไม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของน้อง ๆ ที่ต้องวิเคราะห์จากบทความสั้น ๆ ที่ข้อสอบให้มา 

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถในการอ่าน

ตัวอย่างโจทย์ TGAT2 ความสามารถในการอ่าน

ความสามารถในการเข้าใจภาษา คือ ข้อสอบที่เน้นการเข้าใจในสำนวน สุภาษิตไทยแล้วนำมาปรับใช้กับประโยค หรือในสังเกตว่าประโยคที่ให้มา ใช้คู่กับสำนวนแล้วสื่อความหมายได้ถูกต้องหรือไม่

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถในการเข้าใจภาษา

ความสามารถในการเข้าใจภาษา tgat2

2. TGAT2 ความสามารถทางตัวเลข

อนุกรมมิติ  : อนุกรม (Number Series) คือ การหาความสัมพันธ์ของตัวเลขที่ให้มา และต้องมีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยโจทย์จะให้หาตัวเลขตัวสุดท้ายหรือตัวที่หายไป ซึ่งวิธีในการหาอนุกรม จะไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเลขนั้น ๆ

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางตัวเลข อนุกรมมิติ

อนุกรมมิติ ความสามารถทางตัวเลข tgat2

การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ คือ โจทย์จะมีปริมาณทั้งหมด 3 ปริมาณ แล้วให้พิจารณาว่าปริมาณใดมีค่ามากที่สุด หรือทุกปริมาณมีค่าเท่ากัน หรือข้อมูลไม่เพียงพอที่จะเปรียบเทียบ

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางตัวเลข การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ

ความสามารถทางตัวเลข tgat2 การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ

ความเพียงพอของข้อมูล คือ โจทย์จะให้คำถามมา แล้วให้ข้อมูลมา 2 ข้อมูล น้อง ๆ จะต้องพิจารณาว่า ใช้ข้อมูลใดที่สามารถหาคำตอบได้ทันที แต่บางข้ออาจใช้ข้อมูลใดก็ได้ บางข้อต้องใช้ทั้งสองข้อมูลร่วมกันจึงจะหาคำตอบได้ และบางข้อแม้จะใช้ข้อมูลทั้งสองก็ยังไม่เพียงพอที่จะตอบคำถาม น้องจะต้องคิดโจทย์ส่วนนี้ให้ดี ๆ น้า

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางตัวเลข ความเพียงพอของข้อมูล

ความสามารถทางตัวเลข tgat2 ความเพียงพอของข้อมูล

โจทย์ปัญหา คือ โจทย์ทางคณิตศาสตร์ แต่จะเป็นการคำนวณโดยใช้ความรู้ไม่เกินมัธยมศึกษาตอนต้น โดยบางข้ออาจใช้การทำตรง ๆ หรืออาจใช้มุมมองบางอย่างในการคำนวณอย่างรวดเร็วก็เป็นไปได้

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางตัวเลข โจทย์ปัญหา

ความสามารถทางตัวเลข โจทย์ปัญหา tgat2

3. TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์

ข้อสอบด้านมิติสัมพันธ์ คือ ข้อสอบที่น้อง ๆ จะต้องมองภาพและคาดเดาภาพในมุมต่าง ๆ ข้อสอบส่วนนี้จะมีลักษณะ
4 แบบย่อย คือ แบบพับกล่อง / แบบหาภาพต่าง / แบบหมุนภาพสามมิติ / แบบประกอบภาพ

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางมิติสัมพันธ์

ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ tgat2

 4. TGAT2 ความสามารถทางเหตุผล

ความสามารถทางเหตุผล คือ ข้อสอบที่น้อง ๆ จะต้องมองภาพ มี 4 ด้าน คือ อนุกรมภาพ / อุปมาอุปไมยภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ต้องอ่านเพื่อวิเคราะห์ความและสรุปความด้วย

ตัวอย่างโจทย์ ความสามารถทางเหตุผล

ความสามารถทางเหตุผล tgat2

ตัวอย่างโจทย์ แบบสรุปความ

แบบสรุปความ tgat2

ตัวอย่างโจทย์ แบบวิเคราะห์ข้อความ

แบบวิเคราะห์คำถาม tgat2

TGAT2 มีกี่ข้อ ? คิดคะแนนยังไง ?

จากข้อสอบทั้งหมด 4 ส่วนจะรวมกันได้ทั้งหมด 80 ข้อซึ่งต้องมาแปลงเป็น 100 คะแนนอีกที โดยสามารถคำนวนได้ตามนี้

 

ะแนน TGAT2 (เต็ม 100) = คะแนน TGAT2 (เต็ม 80) × 5 ÷ 4

 

ตัวอย่าง ถ้าน้องได้คะแนนจากทุกพาร์ตรวมกัน 40 คะแนน จากคะแนนเต็ม 80 คะแนน จะได้เป็น คะแนน TGAT2 = 40 × 5 ÷ 4 = 50 คะแนน

TGAT3 คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?

TGAT3  คือ ข้อสอบสมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies) เป็นส่วนหนึ่งข้อสอบของ TGAT ที่เน้นให้น้อง ๆ ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ บทบาท หน้าที่หรือเงื่อนไขต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 4 พาร์ตหลัก ๆ ดังนี้ 

  1. การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม
  2. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
  3. การบริหารจัดการอารมณ์ 
  4. การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

ซึ่งข้อสอบ TGAT3 เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก การตอบคำถาม มี 2 แบบ คือ เลือกตอบตัวเลือกเดียว และเลือกตอบหลายตัวเลือก คะแนนเต็ม 100 คะแนน มีเวลาทำข้อสอบ 3 ชั่วโมง (สามารถแบ่งเวลาทำข้อสอบกับพาร์ตอื่น ๆ เองได้เลยย) และถ้าใครอยากรู้ว่าแต่ละพาร์ตออกสอบประมาณไหนและมีความแตกต่างกันอย่างไร พี่ได้รวมไว้ให้ข้างล่างหมดแล้ว มาดูกันว่าแต่ละพาร์ตจะมีความแตกต่างกันยังไง

1. TGAT3 การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม

การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม คือ การอ่านข้อสอบและวิเคราะห์สถานการณ์โดยใช้หลัก Critical thinking + Data sufficiency + Logical reasoning เพื่อเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น หาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และหาทางเลือกใหม่ ๆ เพื่อพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เช่น การคิดต้นทุนของสินค้า การหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น การกำหนดประเด็นสนับสนุนหรือประเด็นโต้แย้งกับข้อความที่โจทย์ให้มา การแก้ปัญหารวมถึงการสร้างโอกาสใหม่โดยใช้จุดแข็งที่มี มีจำนวน 15 ข้อ ซึ่งคำตอบทุกตัวเลือกจะมีคะแนน ซึ่งไล่ตั้งแต่ 0-1 คะแนน (0, 0.25, 0.50, 0.75, 1) 

ตัวอย่างโจทย์ การคิดเชิงวิเคราะห์

โจทย์TGAT การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม TGAT3

 

2. TGAT3 การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน คือ ข้อสอบที่ประกอบด้วยส่วนของสถานการณ์สมมติ และอิงตามสถานการณ์ โดย 1 สถานการณ์จะใช้ตอบคำถาม 3 – 4 ข้อ เท่านั้นยังไม่พอ บางข้อยังมีวิธีการตอบได้หลายคำตอบ ซึ่งเป็นการตอบ
ที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษด้วย มีทั้งหมด 15 ข้อ อ้างอิงจาก Test Blueprint ตามนี้เลยย

ตัวอย่างโจทย์ การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

การแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ tgat3

3. TGAT3 การบริหารจัดการอารมณ์

การบริหารจัดการอารมณ์ คือ ข้อสอบที่ประกอบด้วยความตระหนักรู้ในตนเอง การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ ความเข้าใจผู้อื่น เป็นข้อสอบแบบวัดทัศนคติ 4 ระดับ มีจำนวน 15 ข้อ โดยทุกคำตอบจะมีคะแนนลดหลั่นไปตามความถูกต้องของคำตอบ ตั้งแต่ 0-1 คะแนน เหมือนกับพาร์ตการสร้างคุณค่าและนวัตกรรม

ตัวอย่างโจทย์ การบริหารจัดการอารมณ์

การบริหารจัดการอารมณ์ โจทย์ TGAT3

4. TGAT3 การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม คือ ข้อสอบประกอบด้วยการมุ่งเน้นการบริการสังคม จิตสำนึกและรับผิดชอบ
ต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น เป็นข้อสอบแบบวัดทัศนคติ 4 ระดับ มีจำนวน 15 ข้อ
โดยทุกคำตอบจะมีคะแนนลดหลั่นไปตามความถูกต้องของคำตอบ ตั้งแต่ 0-1 คะแนน เหมือนกับพาร์ตก่อนหน้า

ตัวอย่างโจทย์ การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม tgat3

TGAT3 มีกี่ข้อ ? คิดคะแนนยังไง ?

น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าข้อสอบนั้นแม้จะมีคะแนนหลายแบบตั้งแต่ 0 และสูงสุดที่ 1 คะแนนและจำนวนข้อก็มีเพียง 60 ข้อเท่านั้น  ในส่วนของการคิดคะแนน TGAT3 ซึ่งถ้าหากน้อง ๆ ต้องการคำนวณคะแนนด้วยตัวเองก็จะต้องทำตามนี้น้า

ตัวอย่าง ถ้าน้องได้คะแนนจากทุกพาร์ตรวมกัน 45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน จะได้เป็น

 

ะแนน TGAT3 (เต็ม 100) = คะแนน TGAT3 (เต็ม 60) × 5 ÷ 3

 

ตัวอย่าง ถ้าน้องได้คะแนนจากทุกพาร์ตรวมกัน 45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน จะได้เป็น คะแนน TGAT3 = 45 × 5 ÷ 3 = 75 คะแนน

ดูคลิปติว TGAT พาร์ตต่าง ๆ

พี่มีคลิปติว TGAT3 พาร์ตการสร้างคุณค่าและนวัตกรรม รวมถึงคลิปติว / ตะลุยโจทย์สนาม TGAT ให้น้อง ๆ เลือกดูเยอะมากเลยน้าา ถ้าสนใจดูคลิปไหนก็สามารถกดปุ่ม Playlist ที่มุมขวาบนของคลิป แล้วเลือกดูกันได้เลยยย

ดูคลิปติววิชาอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ YouTube : SmartMathPro 

รูปแบบการสอบ TGAT

สำหรับ TCAS68 สามารถเลือกสอบ TGAT ได้ทั้งคอมพิวเตอร์และกระดาษ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบมีค่าสมัครสอบเท่ากันคือ 140 บาท 

ขอกระซิบเพิ่มเติม การสอบด้วยคอมพิวเตอร์จะใช้ระบบเดียวกับการสอบ PISA (Programme for International Student Assessment) หรือการประเมินสมรรถนะผู้เรียนตามมาตรฐานสากล ถ้าใครอยากรู้คะแนนสอบแบบเร็วๆ
ก็สามารถเลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์ได้เลย !!

ป.ล. การสอบแบบคอมพิวเตอร์ไม่ใช่การสอบ online ที่บ้านน้า แต่เป็นการสอบตามสนามสอบ TGAT / TPAT ที่ทปอ.จัดไว้ให้เท่านั้น

ต้องสอบ TGAT ให้ครบทุกพาร์ตมั้ย ?

ไม่บังคับสอบน้า เพราะน้อง ๆ จะได้รับข้อสอบ TGAT แบบครบทั้ง 3 พาร์ตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถจัดสรรเวลาในการทำข้อสอบ หรือเลือกพาร์ตที่จะสอบได้เลย  แต่พี่แแนะนำให้สอบครบทั้ง 3 พาร์ตดีกว่าน้า เพราะมหาลัยฯ
ส่วนใหญ่กำหนดใช้คะแนน TGAT ครบทุกพาร์ตอยู่แล้ว

เทคนิคเตรียมสอบ TGAT2, 3

สำหรับเทคนิคเตรียมสอบ TGAT2, 3 นอกจากจะต้องศึกษาแนวข้อสอบ, ลักษณะข้อสอบในแต่ละพาร์ตแล้ว ก็จะมีการฝึกทำโจทย์หรืออื่น ๆ ตามลักษณะของข้อสอบพาร์ตนั้น ๆ ซึ่งน้อง ๆ คนไหนอยากรู้ว่าจะเตรียมตัวสอบยังไง พี่ก็รวบรวมเทคนิคเตรียมสอบ TGAT ไว้ให้แล้ว สามารถตามไปดูกันได้เลยน้า

ถึงแม้ว่ากำหนดการสอบ TCAS68 ขยับเข้ามาเร็วขึ้น แต่พี่เชื่อว่าถ้า Dek68 เตรียมตัวอ่านหนังสืออย่างเต็มที่และฝึกทำโจทย์และข้อสอบเยอะ ๆ ไม่ว่าจะเจอกับข้อสอบแบบไหนก็ทำได้แน่นอนนน

แต่ถ้า Dek68 คนไหนที่กำลังจะเตรียมตัวสอบ TGAT/TPAT แล้วไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไง ? เตรียมตัวตอนนี้ทันมั้ย ? จุดไหนควรเน้น ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ได้คะแนนจากสนามนี้เยอะๆ พี่ขอแนะนำตัวช่วยดีๆ จาก SmartMathPro นั่นก็คือ คอร์สเตรียมสอบ TGAT/TPAT มีให้เลือกมากมายหลายสนาม

สำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ เพราะพี่สอนตั้งแต่ปูพื้นฐาน ไปจนถึงพาทำโจทย์ตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงความยากใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเลย แถมเทคนิคอีกเพียบที่จะช่วยให้น้องทำข้อสอบได้เร็วขึ้น > <

และสำหรับใครที่ยังไม่เริ่ม เริ่มติวตอนนี้ก็ยังทันน้าา (กระซิบว่าถ้าสมัครคอร์ส TGAT TPAT ตอนนี้ พี่มี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ 1 ชุด แถมฟรีไปให้ลองทำ พร้อมสิทธิพิเศษประจำเดือนอีกมากมายเลยน้า) ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจก็สามารถ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดได้เลยยย

บทความ แนะนำ

บทความ แนะนำ

เตรียมสอบ TGAT ยังไงดี ? สำหรับ Dek68
เตรียมสอบ TGAT ยังไง? รวมเทคนิคเริ่มอ่าน TGAT ครบทุกพาร์ต !
สรุปขั้นตอนพิมพ์บัตรเข้าสอบ TGAT TPAT 68
สรุปขั้นตอนพิมพ์บัตรเข้าสอบ TGAT TPAT 68 แบบละเอียด
สรุปเนื้อหา TGAT2 ความสามารถทางเหตุผล
สรุป TGAT2 ความสามารถทางเหตุผล พร้อมแจกเทคนิคเตรียมสอบแบบจัดเต็ม
สรุป TGAT2 ความสามารถทางภาษา พร้อมเทคนิคในการเตรียมสอบแบบจัดเต็ม
สรุป TGAT2 ความสามารถทางภาษา พร้อมเทคนิคในการเตรียมสอบแบบจัดเต็ม
สรุปเนื้อหา TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ สรุปเนื้อหาพร้อมแจกเทคนิคทำข้อสอบ
TGAT3 การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ออกสอบอะไรบ้าง
TGAT3 การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน สรุปแนวข้อสอบพร้อมเฉลยแบบละเอียด
ภาพปก TGAT3 พาร์ตการเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม
สรุป TGAT3 การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม พร้อมเทคนิคทำข้อสอบ
ภาพปก TGAT3 การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม
สรุป TGAT3 การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม พร้อมแจกตัวอย่างข้อสอบจัดเต็ม
TGAT3 การบริหารจัดการอารมณ์
TGAT3 การบริหารจัดการอารมณ์ สรุปแนวข้อสอบและเฉลยละเอียดให้ครบ!
TGAT2 ความสามารถทางตัวเลข
TGAT2 ความสามารถทางตัวเลข สรุปเนื้อหาพร้อมแจกเทคนิคเตรียมสอบ

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่

Line : @smartmathpronews 

FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น 

IG : pan_smartmathpro

X : @PanSmartMathPro 

Tiktok : @pan_smartmathpro

Share