
TGAT2 เป็นอีกหนึ่งวิชาที่หลาย ๆ คณะกำหนดให้เป็นเกณฑ์ในการยื่นคะแนนสอบเข้ามหาลัยฯ โดยข้อสอบพาร์ตนี้คือข้อสอบพาร์ตการคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจ มีทั้งหมด 4 พาร์ต แต่วันนี้พี่จะพาน้อง ๆ เจาะลึก TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ โดยเฉพาะ !!
หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าพาร์ตนี้ออกสอบเกี่ยวกับอะไร แต่ไม่ต้องห่วงน้าา เพราะวันนี้พี่จะพาทุกคนดูตั้งแต่สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้น โครงสร้างข้อสอบ ตัวอย่างข้อสอบ ไปจนถึงเทคนิคทำข้อสอบและวิธีเตรียมตัวสอบ ใครอยากรู้แล้วก็อย่ารอช้า รีบเลื่อนลงไปดูเลยยย
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
ข้อสอบพาร์ตความสามารถทางมิติสัมพันธ์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบ TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล โดยลักษณะของโจทย์จะให้เราสังเกตการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงสามมิติตามลักษณะต่าง ๆ เช่น การพับรูปคลี่ให้กลายเป็นกล่องสามมิติ การสังเกตรูปทรงสามมิติที่แตกต่างจากรูปอื่น ๆ การหมุนรูปทรงสามมิติ และการนำรูปทรงสามมิติมาประกอบกัน
น้อง ๆ หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าทำไมต้องสอบข้อสอบชุดนี้ด้วยนะ ? เหตุผลหนึ่งก็คือการรับรู้เกี่ยวกับมิติสัมพันธ์มีความสำคัญมาก เพราะใช้ในการประเมินความสามารถในการมองความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุต่าง ๆ ของน้องได้ หรือแม้กระทั่งประเมินเกี่ยวกับการสังเกตรูปแบบ จดจำ และจัดการกับวัตถุ 2 มิติ และ 3 มิติได้เช่นกัน
ทักษะนี้นอกจากจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การมองตำแหน่งของวัตถุ การกะระยะของวัตถุต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถใช้ในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ได้ เช่น อาชีพที่เกี่ยวกับการออกแบบ นักวางผังเมือง วิศวกร และแพทย์ เป็นต้น
โครงสร้างข้อสอบ TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
ข้อสอบความสามารถทางมิติสัมพันธ์ประกอบด้วย
- แบบพับกล่อง
- แบบหาภาพต่าง
- แบบหมุนภาพสามมิติ
- แบบประกอบภาพ
โดยข้อสอบเป็นแบบปรนัย (5 ตัวเลือก) จำนวนทั้งหมด 20 ข้อ โดยแบ่งเป็น 5 ข้อ ข้อละ 1.25 คะแนน รวมทั้งหมด 25 คะแนน น้อง ๆ จะมีเวลาในการทำข้อสอบ TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล ประมาณ 60 นาที แสดงว่าน้องจะมีเวลาในการทำข้อสอบพาร์ตความสามารถทางมิติสัมพันธ์ทั้ง 20 ข้อนี้ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้นน้า
ตัวอย่างข้อสอบ TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
แบบพับกล่อง
ลักษณะข้อสอบ : โจทย์จะกำหนดรูปคลี่ของกล่องที่มีลักษณะเป็นลูกบาศก์ที่มีลายบนหน้าของกล่อง 3 หน้ามาให้ น้อง ๆ จะต้องสังเกตลักษณะของลายบนหน้าของกล่องว่าเมื่อพับรูปคลี่แล้ว จะได้กล่องที่ตรงกับตัวเลือกใด
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่าภาพที่กำหนดมาให้ เมื่อถูกพับตามแนวเส้นประแล้วจะปรากฏเป็นกล่องที่ตรงกับตัวเลือกใด

เทคนิคในการทำข้อสอบแบบพับกล่อง
น้อง ๆ ต้องสังเกตลายบนกล่องแต่ละหน้าว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง และสัมพันธ์กับหน้าอื่น ๆ อย่างไร เมื่อพับกล่องมาบรรจบกันแล้ว แต่ละลายต้องอยู่ชิดหรือห่างกันอย่างไร แบบพับกล่องนี้พี่แนะนำว่าสามารถใช้วิธีตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องก่อนได้ แล้วจึงพิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ ในลำดับถัดไปน้า
ตอบ ตัวเลือกที่ 4
จากโจทย์ ถ้าเราประกอบกล่องจะรู้ว่าหน้าสี่จุด และหน้าเข็มสั้นต้องอยู่ติดกัน ดังนั้นสามารถย้ายทั้งสองหน้านี้มาอยู่ติดกันได้ ดังรูปด้านขวา จากนั้นจึงประกอบกล่อง แล้วให้แต่ละหน้าขึ้นด้านบนจะได้รูป A, B และ C (ทั้ง 3 ภาพนี้คือกล่องที่ประกอบเสร็จแล้วและถูกหมุนเป็นมุมมองที่ต่างกัน)
ถ้าให้หน้ารักบี้อยู่ด้านบน จะได้รูป A จึงสามารถตัดตัวเลือกที่ 2 และ 5 ได้
ถ้าให้หน้าสี่จุดอยู่ด้านบน จะได้รูป B จึงสามารถตัดตัวเลือกที่ 3 ได้
ถ้าให้เข็มสั้นอยู่ด้านบน จะได้รูป C ตรงกับตัวเลือกที่ 4
แบบหาภาพต่าง
ลักษณะข้อสอบ : โจทย์จะกำหนดรูปทรงสามมิติต้นแบบมา ให้น้อง ๆ ตรวจสอบว่ารูปทรงสามมิติในตัวเลือกใดที่แตกต่างจากรูปที่โจทย์กำหนดให้ โดยรูปทรงสามมิติจากตัวเลือกจะถูกหมุนไปในทิศทางที่ต่างจากรูปทรงสามมิติต้นแบบ แต่จะมีตัวเลือกหนึ่งที่อาจมีบางส่วนที่หายไปหรือเพิ่มมา ทำให้แตกต่างจากรูปทรงสามมิติต้นแบบที่โจทย์กำหนดมาให้
ตัวอย่าง กำหนดภาพชิ้นงานสามมิติมาให้ ต้องพิจารณาว่าภาพชิ้นงานใดจากตัวเลือกที่หมุนแสดงในมุมมองต่าง ๆ นั้น เป็นภาพชิ้นงานที่แตกต่างไปจากภาพที่กำหนดให้

เทคนิคในการทำข้อสอบแบบหาภาพต่าง
พี่แนะนำให้น้อง ๆ ลองระบายสีหรือกำหนดจุดเด่นของภาพต้นฉบับเพื่อให้เรามองง่ายขึ้นตอนหมุนรูปภาพนั่นเอง หลังจากนั้นให้น้องสังเกตว่าภาพที่ผ่านการหมุนในตัวเลือกของโจทย์ข้อไหนต่างจากโจทย์บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีส่วนที่เกินหรือขาดหายไปนั่นเอง ต้องลองสังเกตความสั้นความยาวของแต่ละรูปดี ๆ น้าาา !!
ตอบ ตัวเลือกที่ 4
จากโจทย์ พี่ระบายสีฟ้าและสีเหลืองที่รูปสามมิติต้นฉบับเพื่อให้สังเกตง่ายขึ้นตอนนำรูปต้นฉบับมาหมุนให้ตรงกับรูปสามมิติในตัวเลือก น้องจะเห็นว่าตัวเลือกที่ 4 แตกต่างจากตัวเลือกเพราะมีส่วนเกินมาตามรูปข้างบนเลย
แบบหมุนภาพสามมิติ
ลักษณะข้อสอบ : โจทย์จะกำหนดรูปทรงสามมิติตัวอย่างมาให้รูปหนึ่ง และรูปที่เกิดจากการหมุนรูปทรงสามมิติดังกล่าวไปอีกทิศทางหนึ่ง ให้น้อง ๆ พิจารณาว่ารูปทรงสามมิติตัวอย่างนั้นหมุนไปในทิศทางใด จากนั้นโจทย์จะกำหนดรูปทรงสามมิติขึ้นมาอีกรูปหนึ่ง ให้น้องพิจารณาว่า ถ้าหมุนรูปทรงสามมิติรูปนี้ด้วยทิศทางเดียวกับรูปแรกแล้วจะตรงกับตัวเลือกใด
ตัวอย่าง กำหนดภาพมาให้ 1 คู่ เป็นชิ้นเดียวกันซึ่งหมุนเปลี่ยนมุมมองไปในทิศที่ต่างกัน จากนั้นให้พิจารณาว่าภาพในกรอบถัดมาที่กำหนดให้ เมื่อหมุนไปในทิศทางเดียวกันกับภาพคู่แรกแล้วเป็นภาพตามข้อใด

เทคนิคในการทำข้อสอบแบบหมุนภาพสามมิติ
โจทย์จะกำหนดวิธีการหมุนมาแล้วจากภาพต้นแบบ พี่แนะนำให้น้อง ๆ สังเกตทุกหน้าที่เราเห็น และดูว่าหลังจากหมุนแล้ว หน้านั้นถูกเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหรือถูกหมุนไปในทิศทางใด สามารถใช้การระบายสีหรือแรเงาเข้ามาช่วยได้น้า จากนั้นค่อยหมุนโจทย์ให้เป็นไปในทิศทางเช่นเดียวกันกับภาพต้นแบบ
ตอบ ตัวเลือกที่ 5
จากภาพต้นแบบ เราระบายสีเหลืองส่วนที่อยู่ด้านบนสุด และระบายสีฟ้าด้านข้าง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าหน้าสีเหลืองจากด้านบนหมุนมาอยู่ด้านหน้า หน้าสีฟ้าจากวางแนวนอนพลิกตั้งขึ้น หรือสามารถมองว่าทั้งชิ้นหมุนทวนเข็มนาฬิกา 90 องศา แล้วนำโจทย์มาหมุนไปในทิศเดียวกันกับภาพต้นแบบ จะได้ภาพตรงกับตัวเลือกที่ 5
แบบประกอบภาพ
ลักษณะข้อสอบ : โจทย์จะกำหนดรูปทรงสามมิติที่เป็นตัวอย่างมาให้รูปหนึ่ง ตามด้วยรูปของชิ้นส่วนหนึ่งที่มาจากรูปแรก ให้น้อง ๆ พิจารณาว่าชิ้นส่วนของรูปทรงสามมิติในตัวเลือกใด นำมาประกอบกับชิ้นส่วนที่โจทย์กำหนดให้ แล้วจะได้เป็นรูปทรงในตัวอย่าง จะต้องประกอบโดยให้ตำแหน่งของลายที่เป็นรอยต่อบนรูปทรงทั้งสองตรงกัน
ตัวอย่าง กำหนดรูปทรงสามมิติมาให้ โดยพิจารณาว่า รูปทรงสามมิติที่กำหนดมาให้นั้นเป็นรูปที่เกิดจากการประกอบกันจากรูปทรงสามมิติ 2 รูป ที่ถูกหมุนในทิศทางต่าง ๆ โดยที่รูปทรงสามมิติที่จะนำมาประกอบนั้นต้องมีตำแหน่งของสัญลักษณ์ที่ตรงกันจึงจะสามารถประกอบเข้ากันได้พอดี

เทคนิคในการทำข้อสอบแบบประกอบภาพ
พี่แนะนำให้น้องลองหมุนภาพชิ้นส่วนที่ถูกแบ่งจากโจทย์กำหนดให้ตรงกับรูปต้นฉบับเพื่อดูว่าอีกชิ้นส่วนที่ถูกแบ่งจะมีลักษณะอย่างไรก่อน หลังจากนั้นลองหมุนชิ้นที่ได้ในทิศทางที่โจทย์กำหนดเลย น้อง ๆ สามารถใช้เทคนิคในการทำข้อสอบแบบหมุนภาพสามมิติได้เลยน้า หลังจากนั้นลองสังเกตตัวเลือกของโจทย์ว่าจุดเชื่อมสัญลักษณ์ที่โจทย์กำหนดให้ควรอยู่ตรงไหน ตรงส่วนนี้พี่แนะนำว่าให้ลองตัดตัวเลือกก่อนน้า เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลาและสังเกตได้ง่ายขึ้น
ตอบ ตัวเลือกที่ 3
จากรูปทรงสามมิติต้นฉบับและชิ้นส่วนที่ถูกแบ่งออกจากรูปทรงสามมิติต้นฉบับจะได้ว่าเส้นสีแดงคือเส้นแบ่งชิ้นส่วนทั้ง 2 ชิ้น และเมื่อได้ชิ้นส่วนที่เราต้องนำไปประกอบกับชิ้นส่วนที่โจทย์กำหนดแล้ว น้อง ๆ ลองสังเกตดูว่าแท่งสีเหลืองจะประกบกับด้านจุด 9 จุด และแท่งสีฟ้าจะประกบกับด้านทึบ จึงตอบตัวเลือกที่ 3 นั่นเอง
เตรียมสอบ TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ ยังไงดี ?
1. ศึกษาแนวข้อสอบ
โจทย์ความสามารถทางมิติสัมพันธ์มี 4 พาร์ตย่อย แต่ละพาร์ตให้น้องสังเกตลักษณะของโจทย์และการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงสามมิติในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะใช้แนวคิดหรือทักษะในการหาคำตอบแต่ละพาร์ตย่อยที่ต่างกัน พี่แนะนำให้น้องลองศึกษาว่าแต่ละพาร์ตย่อยจะออกแนวไหนบ้างเพื่อสังเกตแนวคิดหรือหาเทคนิคในการทำโจทย์พาร์ตต่าง ๆ แล้วนำแนวคิดหรือเทคนิคที่ได้ไปฝึกฝนในการทำโจทย์ต่อไป
2. ฝึกทำโจทย์
โจทย์ส่วนใหญ่จะใช้ทักษะการมองภาพ และจินตนาการภาพ น้อง ๆ สามารถหาโจทย์แนวข้อสอบหรือข้อสอบปีก่อน ๆ จากคลังข้อสอบต่าง ๆ มาฝึกทำ ได้ เพื่อเพิ่มความชำนาญและความคุ้นเคยกับข้อสอบมากยิ่งขึ้น เพราะข้อสอบพาร์ตนี้มักไม่เปลี่ยนจากแนวข้อสอบเดิม ในช่วงแรก ๆ อาจจะใช้เวลาในการทำโจทย์แต่ละข้อนานหน่อย แต่เมื่อฝึกทำโจทย์เยอะขึ้น พี่เชื่อว่าน้อง ๆ จะสามารถใช้เวลาในการทำแต่ละข้อน้อยลงได้
3. จับเวลาทำข้อสอบเสมือนสอบจริง
หลังจากที่น้อง ๆ ฝึกทำโจทย์แนวข้อสอบเก่าแล้ว พี่แนะนำให้น้อง ๆ จำลองการสอบโดยหาข้อสอบ Mock Test มาลองทำพร้อมจับเวลาและจัดบรรยากาศรอบตัวให้เหมือนอยู่ในห้องสอบจริงดูนะ พี่แนะนำว่าไม่ควรเปิดทีวี ใช้โทรศัพท์มือถือ ฟังเพลง หรือกินขนมไปด้วยตอนที่เราลองสอบเสมือนสนามสอบจริง เพื่อให้น้องคุ้นชินกับบรรยากาศห้องสอบมากยิ่งขึ้น
4. ศึกษาข้อผิดพลาดจากการทำข้อสอบ
หลังจากทำข้อสอบ Mock Test เสร็จแล้วควรศึกษาข้อผิดพลาดของตนเองด้วย จะได้ลดข้อผิดพลาดเมื่อเจอข้อสอบจริง พัฒนาในพาร์ตที่เรายังไม่ค่อยแม่น และเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ให้น้อง ๆ ลองสังเกตว่าตัวเองถนัดพาร์ตไหนมากที่สุด ใช้เวลาในการทำข้อสอบแต่ละพาร์ตมากน้อยแค่ไหน เพื่อช่วยให้เราวางแผนว่าพาร์ตไหนเราควรทำก่อนเป็นอันดับแรกหรือเก็บพาร์ตไหนไว้ทำเป็นพาร์ตสุดท้ายได้ด้วยน้า
เทคนิคที่พี่แนะนำไป น้อง ๆ สามารถเอาไปปรับให้เข้ากับแนวทางของตัวเองได้เลย แต่อยากให้เน้นการทำโจทย์ให้มาก ๆ เพราะยิ่งน้องทำโจทย์เยอะเท่าไหร่ ก็จะทำให้เห็นความหลากหลายของโจทย์มากขึ้น
แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนที่รู้สึกว่าการฝึกทำโจทย์เอง อาจจะทำให้ไม่เข้าใจในบางจุด หรือตอบถูกแต่ไม่มั่นใจว่าวิธีการคิด
คำตอบของข้อนั้น ๆ ถูกต้องมั้ย และต้องการเทคนิคหรือวิธีการคิดเพิ่มเติมเพื่อให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น พี่ก็ขอแนะนำตัวช่วยอย่างคอร์ส TGAT2,3 ของ SmartMathPro ที่สอนโดยพี่ปั้น กับ อ.ขลุ่ยเลยยย
โดยในคอร์สจะสอนตั้งแต่ปูพื้นฐาน พาตะลุยโจทย์และข้อสอบ แถมยังมีเฉลยละเอียดครบทุกข้อ พร้อมปล่อยเทคนิคแบบจัดเต็ม นอกจากน้อง ๆ จะมีคนคอยช่วยไกด์แนวทางทำข้อสอบและอธิบายให้เข้าใจมากที่สุดแล้ว น้อง ๆ ก็จะได้เทคนิคที่จะช่วยมองข้อสอบให้ออกและทำข้อสอบได้ทันเวลา อัปคะแนนให้ปังทุกพาร์ต !! ใครสนใจ คลิก ไปดูรายละเอียดได้เลยยย
TGAT2 ความสามารถทางมิติสัมพันธ์เป็นพาร์ตที่ต้องอาศัยการสังเกตอย่างมาก เพราะต้องดูการปรับของรูปทรงสามมิติตามลักษณะต่าง ๆ ซึ่งมันอาจจะนึกภาพยากหน่อยสำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่คุ้นกับโจทย์แนวนี้ พี่แนะนำให้ฝึกทำโจทย์
บ่อย ๆ แล้วลองเอาเทคนิคที่พี่แนะนำไปปรับใช้เพิ่มเติม ถนัดแบบไหนก็เริ่มฝึกจากวิธีนั้นก่อนได้เลย
อาจจะดาวน์โหลดข้อสอบจากคลังข้อสอบหรือดูคลิปติวเพิ่มเติมใน Youtube : SmartMathPro ก็ได้น้า จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าโจทย์แบบนี้ควรคิดแบบไหนหรือสังเกตยังไง ถ้าได้ฝึกทำโจทย์และทบทวนบ่อย ๆ จะต้องเข้าใจมากขึ้นอย่างแน่นอน
สู้ ๆ น้า พี่เป็นกำลังใจให้ทำข้อสอบได้ทุกคนเลยย
ดูคลิปติว TGAT2 พาร์ตต่าง ๆ
พี่มีคลิปติว TGAT2 พาร์ตความสามารถทางมิติสัมพันธ์ รวมถึงคลิปติว / ตะลุยโจทย์สนาม TGAT ให้น้อง ๆ
เลือกดูเยอะมากเลยน้าา ถ้าสนใจดูคลิปไหนก็สามารถกดปุ่ม Playlist ที่มุมขวาบนของคลิป แล้วเลือกดูกันได้เลยยย
ดูคลิปติววิชาอื่น ๆ ได้ที่ YouTube : SmartMathPro
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro
Lemon8 : @pan_smartmathpro