เนื้อหาคณิตศาสตร์ เวกเตอร์ ม.5 มีอะไรบ้าง

มีใครกำลังรอสรุปเนื้อหา คณิต ม.ปลายอยู่บ้างไหมน้า ~ หลังจากที่ครั้งก่อนพี่ได้เอาสรุปเนื้อหาเรื่องฟังก์ชันตรีโกณมิติกับเมทริกซ์มาฝากน้องๆ ม.5 ทุกคนไปแล้ว ก็ถึงคิวของ เวกเตอร์ แล้วนะ !! ใครเรียนอยู่ ม.5 หรืออยากจะเตรียมตัวไว้ก่อน ห้ามพลาดบทความวันนี้เลยน้า เพราะนอกจากจะมีสรุปเนื้อหาแล้วยังมีตัวอย่าง โจทย์ และวิธีทำแบบละเอียดยิบ ใครอยากเข้าใจเวกเตอร์ให้มากขึ้นแล้ว รีบเลื่อนลงไปดูกันเล้ย

น้องบางคนอาจคุ้นเคยกับปริมาณที่บ่งบอกขนาดต่าง ๆ เช่น ความยาว ระยะทาง ปริมาตร มวล อุณหภูมิ เป็นต้น เพื่อบอกความมากหรือน้อยของสิ่งนั้น ดังตัวอย่างประโยคเหล่านี้ในชีวิตประจำวันของน้องๆ 

น้องอาจเคยถามแม่ค้าว่า…

“แม่ค้าคะ มีไม้บรรทัดยาว 100 เซนติเมตรขายไหมคะ”

อาจเคยได้ยินเพื่อนบ่นว่า…

“วันนี้อากาศร้อนมากเลย ในแอปพลิเคชันบอกว่าอุณหภูมิ 32 องศา แต่ Feels Like 35 องศาแน่ะ!”

หรืออาจได้ยินแม่พูดว่า…

“แมวของแม่กินเก่งมาก แม่ต้องซื้ออาหารแมวถุงใหญ่สุดที่มีน้ำหนัก 20 กิโลกรัมทุกเดือนเลย”

การบอกปริมาณบางอย่างสามารถบอกเพียงขนาดอย่างเดียวได้ ดังประโยคข้างต้น แต่ปริมาณบางอย่างไม่สามารถทำได้ จะต้องบอกขนาดควบคู่กับการพิจารณาทิศทางด้วย อ่านเพียงเท่านี้อาจฟังดูประหลาดสำหรับน้องบางคนที่ไม่คุ้นเคย แต่พี่จะลองยกตัวอย่างต่อไปนี้

น้องอาจเคยได้ยินคนถามซินแสว่า… 

“ซินแสคะ จากบ้านหนูเดินทางไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตรก็จะถึงแม่น้ำ ทำเลบ้านหนูดีไหมคะ” 

หรือเคยได้ยินคนพากย์เรือยาวว่า… 

“เรือยาวลำนี้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร่ง 4 เมตรต่อวินาทียกกำลังสองเลยทีเดียวครับบบ” 

น้อง ๆ ที่เคยเรียนวิทยาศาสตร์มาแล้วบางคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “เวกเตอร์” มาบ้าง พี่จะขอสรุปความหมายของปริมาณทั้งสองแบบพร้อมทั้งชื่อเรียกไว้ดังนี้ 

ชนิดของปริมาณ

  • ปริมาณสเกลาร์ คือ มีขนาดเพียงอย่างเดียว เช่น มูลค่าของเงิน ระยะทาง ช่วงเวลา
  • ปริมาณเวกเตอร์ คือ มีทั้งขนาดและทิศทาง เช่น แรงผลัก ระยะกระจัด ความเร็ว
ปริมาณสเกลาร์สามารถเขียนแทนด้วยจำนวนจริงได้เลย แต่ปริมาณเวกเตอร์จะต้องมีส่วนของเส้นตรงและหัวลูกศรมาระบุทิศทางด้วย โดยความยาวของส่วนของเส้นตรงจะเป็นตัวบอกขนาดนั่นเอง โดยสัญลักษณ์ที่น้อง ๆ จะได้เจอในบทนี้มีดังนี้ 
สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับเวกเตอร์

หลังจากที่เราทำความรู้จักสัญลักษณ์ซึ่งจะต้องเจอในบทนี้ พี่จะขออธิบายคำสำคัญอย่างเช่น การขนานกันของเวกเตอร์ การเท่ากันของเวกเตอร์ และนิเสธของเวกเตอร์ให้น้องเข้าใจอย่างง่ายๆ ดังรูปด้านล่างนี้เลย 

คำสำคัญเกี่ยวกับเวกเตอร์

การบวกเวกเตอร์

การบวกเวกเตอร์มีความแตกต่างกับการบวกของจำนวนทางคณิตศาสตร์ทั่วไป เพราะการบวกเวกเตอร์เราต้องคำนึงถึงทั้งขนาดและทิศทางของเวกเตอร์ด้วย 

บทนิยาม ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ใดๆ เขียน \vec{v} โดยให้จุดเริ่มต้นของ \vec{v} อยู่ที่จุดสิ้นสุดของ \vec{u} ผลบวกของ \vec{u} และ \vec{v} คือ เวกเตอร์ที่มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่จุดเริ่มต้นของ \vec{u} และจุดสิ้นสุดอยู่ที่จุดสิ้นสุดของ \vec{v}

นั่นคือ การบวกของ \vec{u} และ \vec{v} คือการนำหัวของ \vec{v} ต่อที่หางของ \vec{u} แล้วผลบวกของ \vec{u} และ \vec{v} จะมีหางอยู่ที่หางของ \vec{u} และหัวอยู่ที่หัวของ \vec{v} หรือเราสามารถเรียกว่าการบวกเวกเตอร์แบบหางต่อหัวนั่นเอง

ผลบวกของ \vec{u} และ \vec{v} เขียนแทนด้วย \vec{u}+ \vec{v}

ตัวอย่างที่ 1

จงหาเวกเตอร์ \vec{u} + \vec{v}

การบวกเวกเตอร์

จากตัวอย่าง นำเวกเตอร์ \vec{v} มาต่อกับเวกเตอร์ \vec{u} ให้หางของเวกเตอร์ \vec{v}   ต่อที่หัวของเวกเตอร์ \vec{u} แล้วเวกเตอร์ลัพธ์ \vec{u}+ \vec{v} จะลากจากหางของเวกเตอร์ \vec{u} ไปที่หัวของเวกเตอร์ \vec{v} ดังรูปข้างต้น

เวกเตอร์ศูนย์

บทนิยาม

เวกเตอร์ศูนย์ (zero vector) คือ เวกเตอร์ที่มีขนาดเป็นศูนย์

เวกเตอร์ศูนย์ เขียนแทนด้วย \vec{0}

โดยทั่วไปเราจะไม่กล่าวถึงทิศทางของเวกเตอร์ศูนย์ แต่ถ้าต้องการกล่าวถึงมีข้อตกลงว่าจะระบุทิศทางของเวกเตอร์ศูนย์เป็นเช่นใดก็ได้

จากบทนิยามจะเห็นว่า สำหรับเวกเตอร์ \vec{u} ใดๆ \vec{u}+\vec{0}=\vec{0}+\vec{u}=\vec{u} และ \vec{u}+(-\vec{u})=(-\vec{u})+\vec{u}=\vec{0}

เวกเตอร์ศูนย์จะมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเวกเตอร์เป็นจุดเดียวกันนั่นเอง

สรุปสมบัติการบวกเวกเตอร์ ได้ดังนี้ \vec{u}

ให้ \vec{u} , \vec{v} และ \vec{w} เป็นเวกเตอร์ใดๆ

1. \vec{u}+\vec{v} =\vec{v}+\vec{u}

2. (\vec{u}+\vec{v})+\vec{w} =\vec{u}+(\vec{v}+\vec{w})

3. \vec{u}+\vec{0}=\vec{0}+\vec{u}=\vec{u}

4. \vec{u}+(-\vec{u})=(-\vec{u})+\vec{u}=\vec{0}

การลบเวกเตอร์

หลังจากเรารู้จักการบวกเวกเตอร์และเวกเตอร์ศูนย์แล้ว ในหัวข้อนี้เราจะมาดูว่าการลบเวกเตอร์ มีหลักการหรือวิธีการที่เหมือนหรือแตกต่างจากการบวกเวกเตอร์อย่างไร 

บทนิยาม ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ใดๆ \vec{u} ลบด้วย \vec{v} เขียนแทนด้วย \vec{u}-\vec{v} คือผลบวกเวกเตอร์ของ \vec{u} และนิเสธของ \vec{v} นั่นคือ \vec{u}-\vec{v}=\vec{u}+(-\vec{v})

การลบเวกเตอร์สามารถหาได้จากการบวกด้วยนิเสธของเวกเตอร์ นั่นคือการบวกเวกเตอร์นั้นในทิศทางตรงกันข้าม โดยน้อง ๆ สามารถใช้การบวกแบบหางต่อหัวเช่นเดียวกันกับการบวกในหัวข้อก่อนหน้าเลย 

ตัวอย่างที่ 2

จงหาเวกเตอร์ \vec{u} – \vec{v}

การลบเวกเตอร์

จาก \vec{u} และ \vec{v} ที่กำหนดให้ เราจะหานิเสธของ \vec{v} โดยที่มีขนาดเท่าเดิม แต่มีทิศทางตรงกันข้าม นั่นคือ -\vec{v} จากนั้นนำ \vec{u} มาบวกกับ -\vec{v} แล้วจะได้เวกเตอร์ลัพธ์ที่ลากจากหางของ \vec{u} ไปที่หัวของ -\vec{v} และมีทิศทางดังรูปด้านบน

การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์

ในการศึกษาหัวข้อนี้ เราจะใช้อักษร a, b, c, … แทนสเกลาร์ (จำนวนจริง) 

บทนิยาม

ให้ a เป็นสเกลาร์ และ \vec{u} เป็นเวกเตอร์ ผลคูณของ \vec{u} กับสเกลาร์ a เป็นเวกเตอร์ เขียนแทนด้วย a\vec{u} โดยที่

  1. ถ้า a=0 แล้ว a\vec{u} =\vec{0}
  2. ถ้า a>0 แล้ว a\vec{u} จะมีขนาด \left |a \right |\left |\vec{u} \right | หน่วย และมีทิศทางเดียวกับ \vec{u}
  3. ถ้า a<0 แล้ว a\vec{u} จะมีขนาด \left |a \right |\left |\vec{u} \right| หน่วย แต่มีทิศทางตรงข้ามกับ \vec{u}

หมายเหตุ

1. (-1)\vec{u}=-\vec{u}

2. ถ้า a\neq 0 และ \vec{u} ไม่ใช่เวกเตอร์ศูนย์ แล้ว a\vec{u} จะขนานกับ \vec{u}

ตัวอย่างที่ 3

ให้ \vec{u} เป็นเวกเตอร์ที่มีขนาด 4 หน่วยและมีทิศทางดังรูป จงบรรยายลักษณะของเวกเตอร์ต่อไปนี้

  1. 4\vec{u}
  2. -4\vec{u}
  3. \frac{1}{4}\vec{u}
  4. -\frac{1}{4}\vec{u}
การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์
  1. เนื่องจาก 4>0 ดังนั้น 4\vec{u} จะมีขนาดเป็นสี่เท่าของ \vec{u} หรือมีขนาด 16 หน่วย และมีทิศทางเดียวกับ \vec{u}
  2. เนื่องจาก -4<0 ดังนั้น -4\vec{u} จะมีขนาดเป็นสี่เท่าของ \vec{u} หรือมีขนาด 16 หน่วย แต่มีทิศทางตรงข้ามกับ \vec{u}
  3. เนื่องจาก \frac{1}{4}>0 ดังนั้น \frac{1}{4}\vec{u} จะมีขนาดเป็นหนึ่งในสี่ของ \vec{u} หรือมีขนาด 1 หน่วย และมีทิศทางเดียวกับ \vec{u}
  4. เนื่องจาก -\frac{1}{4}<0 ดังนั้น -\frac{1}{4}\vec{u} จะมีขนาดเป็นหนึ่งในสี่ของ \vec{u} หรือมีขนาด 1 หน่วย แต่มีทิศทางตรงข้ามกับ \vec{u}

สรุปสมบัติการคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ ได้ดังนี้

ให้ a, b เป็นสเกลาร์ และ \vec{u}, \vec{v} เป็นเวกเตอร์

  1. 1\vec{u}=\vec{u}
  2. a(\vec{u}+\vec{v})=a\vec{u}+a\vec{v}
  3. (a+b)\vec{u}=a\vec{u}+b\vec{u}
  4. (ab)\vec{u}=a(b\vec{u})+b(a\vec{u})

เวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก

หลังจากที่น้องๆ ได้รู้จักแล้วว่าเวกเตอร์คืออะไร สามารถเขียนสัญลักษณ์แทนเวกเตอร์ได้แบบไหนแล้ว แต่การจะบรรยายว่าเวกเตอร์นั้นมีขนาดเท่าไหร่และมีทิศทางไปทางไหนโดยใช้การวาดรูปไปตลอดคงจะไม่ค่อยสะดวกนัก จึงมีวิธีการเขียนเวกเตอร์ให้เข้าใจได้ง่ายอยู่ 2 แบบ คือ 

1. การใช้เมทริกซ์ช่วย

2. การใช้เวกเตอร์   \vec{i}, \vec{j}, \vec{k} ช่วย โดยที่เวกเตอร์   \vec{i}, \vec{j}, \vec{k} เป็นเวกเตอร์ขนาดหนึ่งหน่วยที่มีทิศทางตามแกน X, Y, Z ในระบบพิกัดฉากตามลำดับ 

ซึ่งวิธีการเขียน 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันยังไง พี่มีตัวอย่างให้น้องๆ ได้ดู ตามนี้เลย

ตัวอย่างที่ 4 จงเขียนเวกเตอร์ \overrightarrow{OP} ที่มีลักษณะดังรูป ในรูปแบบเมทริกซ์ และในรูปแบบเวกเตอร์ \vec{i}, \vec{j}, \vec{k}
เวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก

ป.ล. พี่จะขอใช้วิธีการเขียนเวกเตอร์ในรูปแบบเมทริกซ์ในการอธิบายเนื้อหาหลังจากนี้น้า

โดยตัวอย่างข้างต้นเป็นการหาเวกเตอร์ที่มีจุดเริ่มต้นเป็นจุดกำเนิด แต่ถ้าจุดเริ่มต้นไม่ใช่จุดกำเนิดล่ะ จะหาเวกเตอร์ยังไงดี พี่มีตัวอย่างเล็กๆ ที่จะให้น้องๆ รู้วิธีหาเวกเตอร์จากจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดใดๆ ได้ ตามนี้เลย

ตัวอย่างที่ 5

จงหาเวกเตอร์ \overrightarrow{AB} และ \overrightarrow{BA} ที่มีจุด A คือจุด \left (3,4 \right ) และจุด B คือจุด \left (5,1 \right )

วิธีหาเวกเตอร์จากจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

ตัวอย่างที่ 6

จงหาเวกเตอร์ \overrightarrow{CD} และ \overrightarrow{DC} ที่มีจุด C คือจุด \left (1,-3,7 \right ) และจุด D คือจุด \left (-2,-1,2 \right )

ตัวอย่างการหาเวกเตอร์จากจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

ขนาดของเวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก

การหาขนาดของเวกเตอร์ เราจะใช้ความรู้เดิมจากเรื่องเรขาคณิตวิเคราะห์ นั่นคือ ระยะห่างระหว่างจุดกับจุด เช่น ถ้าอยากหาขนาดของ \overrightarrow{AB} เราจะหาระยะห่างระหว่างจุด A กับจุด B และสรุปเป็นขนาดของ \overrightarrow{AB} ได้เลย โดยมีสูตรขนาดของเวกเตอร์ดังนี้

กำหนดให้ \vec{u}=\begin{bmatrix}a\\b\end{bmatrix} และ \vec{v}=\begin{bmatrix}a\\ b\\ c\end{bmatrix} จะได้ว่า

ขนาดของ \vec{u}=\left | \vec{u} \right |=\sqrt{a^{2}+b^{2}}

ขนาดของ \vec{v}=\left |\vec{v} \right |=\sqrt{a^{2}+b^{2}+c^{2}}

ตัวอย่างที่ 7

จงหาขนาดของ \vec{u} โดยที่ \vec{u}=\begin{bmatrix}2\\ -3\\ 6\end{bmatrix}

หาขนาดของเวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก

เวกเตอร์หนึ่งหน่วยในระบบพิกัดฉาก

บทนิยาม

เวกเตอร์ที่มีขนาดหนึ่งหน่วย เรียกว่า เวกเตอร์หนึ่งหน่วย

เวกเตอร์หนึ่งหน่วยในระบบพิกัดฉาก 2 มิติที่สำคัญคือ \begin{bmatrix}1\\ 0\end{bmatrix} เขียนแทนด้วย \vec{i} และ \begin{bmatrix}0\\ 1\end{bmatrix} เขียนแทนด้วย \vec{j} ส่วนเวกเตอร์หนึ่งหน่วยที่สำคัญในระบบพิกัดฉาก 3 มิติที่สำคัญ คือ \begin{bmatrix}1\\ 0\\ 0\end{bmatrix} เขียนแทนด้วย \vec{i} , \begin{bmatrix}0\\ 1\\ 0\end{bmatrix} เขียนแทนด้วย \vec{j} และ \begin{bmatrix}0\\ 0\\ 1\end{bmatrix} เขียนแทนด้วย \vec{k}

เนื่องจาก \vec{u} ใดๆ ที่ไม่ใช่เวกเตอร์ศูนย์จะมีขนาดเท่ากับ \left |\vec{u} \right | ดังนั้นเวกเตอร์หนึ่งหน่วยที่มีทิศทางเดียวกับ \vec{u} คือ \frac{\vec{u}}{\left |\vec{u} \right | }

ตัวอย่างที่ 8

จงหาเวกเตอร์หนึ่งหน่วยที่มีทิศทางเดียวกับ \begin{bmatrix}-4\\ 8\\ -1\end{bmatrix}

ตัวอย่างหาเวกเตอร์หนึ่งหน่วยในระบบพิกัดฉาก

การดำเนินการของเวกเตอร์

ตัวอย่างที่ 9

กำหนดให้ \vec{u}=\begin{bmatrix}-3\\ 5\end{bmatrix} และ \vec{v}=\begin{bmatrix}4\\ -6\end{bmatrix} จงหา 2\vec{u}-\vec{v}

การดำเนินการของเวกเตอร์

ปูพื้นฐานเวกเตอร์ให้แน่น ด้วยคอร์สแยกบท!

คอร์สนี้จะเน้นเก็บเนื้อหาบทเวกเตอร์โดยเฉพาะ พร้อมตะลุยโจทย์กันแบบจัดเต็ม ใครอยากเรียนเพื่อเสริมเกรด เตรียมตัวล่วงหน้า หรือติวสอบ ไม่ควรพลาดคอร์สนี้เลยน้าา !

สมัครคอร์ส คลิกเลย

ผลคูณเชิงสเกลาร์

บทนิยาม

ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ในระบบพิกัดฉากสองมิติหรือสามมิติ a_{1},a_{2},a_{3},b_{1},b_{2} และ b_{3} เป็นสเกลาร์ ผลคูณเชิงสเกลาร์ของ \vec{u} และ \vec{v} (อ่านว่า เวกเตอร์ยู ดอท เวกเตอร์วี) กำหนดดังนี้
1. ถ้า \vec{u}=a_{1}\vec{i}+a_{2}\vec{j} และ \vec{v} = b_{1}\vec{i}+b_{2}\vec{j} เป็นเวกเตอร์ในระบบพิกัดฉากสองมิติ จะได้ \vec{u}\cdot \vec{v}=a_{1}b_{1}+a_{2}b_{2}

2. ถ้า \vec{u}=a_{1}\vec{i}+a_{2}\vec{j}+a_{3}\vec{k} และ \vec{v}=b_{1}\vec{i}+b_{2}\vec{j}+b_{3}\vec{k}   เป็นเวกเตอร์ในระบบพิกัดฉากสามมิติ จะได้ \vec{u}\cdot \vec{v}=a_{1}b_{1}+a_{2}b_{2}+a_{3}b_{3}

ตัวอย่างที่ 10

กำหนดให้ \vec{u}=\begin{bmatrix}-3\\ 5\end{bmatrix} และ \vec{v}=\begin{bmatrix}4\\ -6\end{bmatrix} จงหา \vec{u}\cdot \vec{v}

ผลคูณเวกเตอร์เชิงสเกลาร์
ซึ่งผลคูณเชิงสเกลาร์มีทฤษฎีบทที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 ทฤษฎีบท ดังนี้

ให้ \vec{u},\vec{v} และ \vec{w} เป็นเวกเตอร์ใดๆ ในระบบพิกัดฉากสองมิติหรือสามมิติและ a เป็นสเกลาร์ จะได้ว่า

  1. \vec{u}\cdot \vec{v}=\vec{v}\cdot \vec{u}
  2. \vec{u}\cdot (\vec{v}+\vec{w})=\left(\vec{u}\cdot\vec{v} \right)+\left(\vec{u}\cdot\vec{w} \right) และ \left(\vec{u}+\vec{v}\right)\cdot \vec{w}=\left(\vec{u}\cdot \vec{w} \right)+\left(\vec{v}\cdot \vec{w} \right)
  3. a\left(\vec{u}\cdot \vec{v} \right)=\left (a\vec{u}\right)\cdot \vec{v}=\vec{u}\cdot \left (a\vec{v}\right)
  4. \vec {0}\cdot \vec{u}=0
  5. \vec {u}\cdot \vec{u}=\left | \vec{u} \right |^{2}
  6. \vec{i}\cdot \vec{i}=\vec {j}\cdot \vec{j}=\vec{k}\cdot \vec{k}=1 และ \vec{i}\cdot \vec {j}=\vec{i}\cdot \vec{k}=\vec{j}\cdot \vec{k}=0

ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ใดๆ ที่ไม่ใช่เวกเตอร์ศูนย์ ในระบบพิกัดฉากสองมิติหรือสามมิติและ \theta เป็นขนาดของมุมระหว่าง \vec{u} และ \vec{v} ซึ่ง 0^{\circ}\leq \theta \leq 180^{\circ} (มุมระหว่างเตอร์ หมายถึงที่ไม่ใช่มุมกลับ ซึ่งมีแขนของมุมเป็นรังสีที่ขนานและมีทิศทางเดียวกับเวกเตอร์ทั้งสอง) จะได้ว่า
\vec {u}\cdot \vec{v}=\left | \vec{u} \right |\left | \vec{v} \right |\cos \theta

ตัวอย่างที่ 11

จงหาค่าของ \vec{u}\cdot \vec{v} โดยกำหนดให้ขนาดของ \vec{u} และ \vec{v} เป็น 10 และ 7 ตามลำดับ และมีขนาดของมุมระหว่างเวกเตอร์ทั้งสองเป็น 90^{\circ}

ตัวอย่างการหาผลคูณเวกเตอร์เชิงสเกลาร์

จากตัวอย่างข้างต้น พี่อยากให้น้องสังเกตว่า ถ้าเวกเตอร์ทั้งสองตั้งฉากกันหรือทำมุมกัน 90^{\circ} จะทำให้ค่าของ \vec{u}\cdot \vec{v} เป็น 0

ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ใดๆ ในระบบพิกัดฉากสองมิติหรือสามมิติ จะได้ว่า \vec{u} ตั้งฉากกับ \vec{v} ก็ต่อเมื่อ \vec{u}\cdot \vec{v}=0

ผลคูณเชิงเวกเตอร์

ในหัวข้อที่แล้วน้องๆ ได้รู้จักกับผลคูณเชิงสเกลาร์ซึ่งเกิดจากการคูณระหว่างเวกเตอร์สองเวกเตอร์แล้วได้ผลลัพธ์เป็นสเกลาร์กันไปแล้ว ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงการคูณระหว่างเวกเตอร์สองเวกเตอร์แล้วได้ผลลัพธ์เป็นเวกเตอร์ดูบ้าง ดังบทนิยามนี้ 

บทนิยาม

ผลคูณเชิงเวกเตอร์ของ \vec{u} และ \vec {v} เขียนแทนด้วย \vec{u}\times\vec{v}

กำหนดโดย \vec{u}\times \vec{v}= (a_{2}b_{3}-a_{3}b_{2})\vec{i}-(a_{1}b_{3}-a_{3}b_{1})\vec{j}+(a_{1}b_{2}-a_{2}b_{1})\vec{k}
\vec{u}\times\vec {v} อ่านว่า เวกเตอร์ยู ครอส เวกเตอร์วี

วิธีการหาผลคูณเชิงเวกเตอร์ (การครอสเวกเตอร์) 

วิธีครอสเวกเตอร์
ตัวอย่างที่ 12 ให้ \vec{u}=\begin{bmatrix}2\\3\\0\end{bmatrix}  และ \vec{v}=\begin{bmatrix}1\\2\\3\end{bmatrix}  จงหา \vec{u}\times\vec{v}
วิธีการหาผลคูณเชิงเวกเตอร์
ทีนี้มาดูหน้าตาของเวกเตอร์ที่ได้จากการ “ครอส” กันเถอะ !

ลักษณะของผลลัพธ์ของผลคูณเชิงเวกเตอร์

เราสามารถแสดงทิศทางของ \vec{u}\times\vec{v}  โดยใช้กฎของมือขวาได้ดังรูป

ลักษณะของผลลัพธ์ของผลคูณเชิงเวกเตอร์

และสามารถแสดงทิศทางของ \vec{v}\times\vec{u}  โดยใช้กฎของมือขวาได้ดังรูป

ตัวอย่างการแสดงทิศทางของเวกเตอร์ด้วยกฎมือขวา

จะสังเกตได้ว่า เมื่อ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ที่ไม่ขนานกัน จะได้ว่าทั้ง

\vec{u}\times\vec{v}  และ \vec{v}\times\vec{u} เป็นเวกเตอร์ที่ตั้งฉากกับระนาบของ \vec{u} และ \vec{v} และทั้งสองมีทิศทางตรงกันข้ามกัน 

จึงสรุปได้ว่า \vec{u}\times\vec{v}=-(\vec{v}\times\vec{u}) หรือก็คือเป็นนิเสธของกันและกันนั่นเอง

สมบัติต่างๆ ของผลคูณเชิงเวกเตอร์

ให้ \vec{u}, \vec{v} และ \vec{w} เป็นเวกเตอร์ใดๆ ในระบบพิกัดฉากสามมิติ และ a เป็นจํานวนจริงใดๆ b

1. \vec{u}\times\vec{v}=-(\vec{v}\times\vec{u})

2. (\vec{u}+\vec{v})\times\vec {w}=(\vec{u}\times\vec {w})+(\vec{v}\times\vec{w})

3. \vec{u}\times(\vec{v}+\vec{w})=(\vec{u}\times\vec{v})+(\vec{u}\times\vec{w})

4.  \vec{u}\times (a\vec{v})=a(\vec{u}\times\vec{v})

5. (a\vec{u})\times (\vec{v})=a(\vec{u}\times\vec{v})

6. \vec{u}\times\vec{u} =\vec{0}

เวกเตอร์ที่นำมาครอสกันจะมีทิศทางตั้งฉาก
น้องๆ ได้ทราบถึงหน้าตาและทิศทางของผลคูณเชิงเวกเตอร์กันแล้ว คราวนี้เหลือขนาดของผลคูณเชิงเวกเตอร์ที่เรายังไม่ทราบ ไปดูกันดีกว่าว่าเราจะหาขนาดของผลคูณเชิงเวกเตอร์ได้อย่างไร 

ให้ \vec{u} และ \vec{v} เป็นเวกเตอร์ใดๆ ในระบบพิกัดฉากสามมิติ จะได้ว่า \vec{u}\times\vec{v}  เป็นเวกเตอร์ที่ตั้งฉากกับ \vec{u} และ \vec{v}

และมีขนาดเป็น \left | \vec{u}\times \vec{v} \right |=\left |\vec{u} \right |\left |\vec{v} \right |\sin \theta

เมื่อ \theta เป็นขนาดของมุมระหว่าง \vec{u} และ \vec{v} โดยที่

0^{\circ }\leq \theta\leq 180^{\circ }

ตัวอย่างที่ 13

ให้ \vec{u}=\begin{bmatrix}1\\2\\0\end{bmatrix}  และ \vec{v}=\begin{bmatrix}1\\1\\-2\end{bmatrix}   จงหาค่าของ \sin \theta เมื่อ \theta เป็นขนาดของมุมระหว่าง \vec{u} และ \vec{v}

ตัวอย่างการหาขนาดของผลคูณเชิงเวกเตอร์

การหาพื้นที่และปริมาตร

การใช้เวกเตอร์ในการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน

ก่อนอื่น ขอทบทวนเรื่องตรีโกณมิติกันนิดนึงน้า ถ้าเรามีรูปสามเหลี่ยมมุมฉากที่มุมหนึ่งมีขนาด \theta และด้านตรงข้ามมุมฉากยาว a  เราจะได้ว่าด้านประชิดมุมและด้านตรงข้ามมุมจะมีความยาวเป็น a\cos \theta   และ a\sin\theta  ดังรูป

การหาพื้นที่และปริมาตรเวกเตอร์
เนื่องจาก ขนาดของเวกเตอร์สามารถแทนด้วยความยาวของเวกเตอร์ในรูปของลูกศรได้ แสดงว่า เราสามารถนำความยาวดังกล่าวมาใช้ในการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานได้ ว่าแต่เราจะประยุกต์ยังไง น้องๆ ไปดูกันเลย

กำหนดรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCD   

ให้ \vec{u}=\overrightarrow{AB},\vec{v}=\overrightarrow {AD}  และ \theta เป็นขนาดของมุมระหว่าง \vec{u}  และ \vec{v}
สิ่งที่เราต้องการคือพื้นที่ของสี่เหลี่ยมด้านขนาน ซึ่งมีสูตรว่า ฐาน \times  สูง

โจทย์กำหนดเวกเตอร์มาให้เพียงอย่างเดียว เราต้องนำเวกเตอร์ที่มีไปหาขนาดก่อนเพื่อไปหาความยาวของด้านต่างๆ ต่อได้ โดยเราจะได้ว่าความยาวของฐานสี่เหลี่ยมด้านขนานเท่ากับ \left |\vec{u} \right | ส่วนความสูงของสี่เหลี่ยมนั้น จากความรู้ตรีโกณมิติที่ทบทวนไปข้างต้นก็จะได้ว่าความสูงของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานเท่ากับ \left |\vec{v} \right |\sin \theta  ดังรูป

การหาสี่เหลี่ยมด้านขนานในเวกเตอร์

จึงสรุปได้ว่า \left |\vec{u} \right |\left |\vec{v} \right |\sin \theta เป็นพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน

แต่เนื่องจาก \left | \vec{u}\times \vec{v} \right |=\left |\vec{u} \right |\left |\vec{v} \right |\sin \theta

ดังนั้น \left | \vec{u}\times \vec{v} \right |  จึงเป็นพื้นที่ของสี่เหลี่ยมด้านขนานดังกล่าวด้วย

ตัวอย่างที่ 14

จงหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCD  เมื่อ \overrightarrow{AB}=2\vec{i}+\vec{j}+5\vec{k}  และ \overrightarrow{AD}=-\vec{i}+2\vec{j}+3\vec{k}  

ตัวอย่างการใช้เวกเตอร์หาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน

การใช้เวกเตอร์ในการหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมด้านขนาน

กำหนดทรงสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCDEFGH   ให้ \vec{u}=\overrightarrow{AB},\vec{v}=\overrightarrow{AD},\vec{w}=\overrightarrow{AF} และ \theta เป็นขนาดของมุมระหว่าง \vec{u}  และ \vec{v}\times \vec{w} ในที่นี้จะพิจารณารูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ADEF  เป็นฐาน และ h เป็นความสูง จะได้ว่า h=\left | \vec{u} \right |\left |\cos \theta\right |  ดังรูป

การใช้เวกเตอร์ในการหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมด้านขนาน

ตัวอย่างที่ 15

จงหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCDEFGH  โดยที่ \overrightarrow{AB}=\vec{u}=\vec{i}+2\vec{k},\overrightarrow{AD}=\vec{v}=2\vec{j}+\vec{k}  และ \overrightarrow{AF}=\vec{w}=\vec{i}+2\vec{j}

ตัวอย่างการใช้เวกเตอร์าปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมด้านขนาน

ดูคลิปติวเรื่อง เวกเตอร์

ติดตามคลิปติวฟรีอื่นๆ จากพี่ปั้น ได้ทาง YouTube Channel : SmartMathPro

เป็นยังไงบ้างกับเนื้อหาเรื่องเวกเตอร์ที่พี่สรุปมาให้ อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นกันรึเปล่า ^_^  พี่รู้ว่าน้อง ๆ ม.5 หรือคนที่กำลังจะเตรียมตัวเลื่อนชั้นอาจจะกังวลว่าคณิต ม.5 จะยากไปรึเปล่านะ ? พี่ก็เลยหวังว่าเนื้อหาที่เตรียมมาให้ทุกคนวันนี้จะช่วยให้น้อง ๆ หายกังวลกันได้บ้าง

แต่ถ้าใครไม่เข้าใจ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโจทย์จากคลังข้อสอบมาฝึกทำได้เลยย กระซิบว่าโจทย์และแบบฝึกหัดตรงตามหลักสูตรปัจจุบันด้วยนะ !! ซึ่งพี่เชื่อว่าถ้าทุกคนทบทวนเนื้อหาและฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ ก็จะเข้าใจบทเรียนได้มากขึ้น พร้อมไปอัปคะแนนสอบแน่นอนน พี่เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยน้าา

คอร์สเรียน แนะนำ

บทความ แนะนำ

สำหรับน้องๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Line : @smartmathpronews

รวมถึงข่าวสารต่างๆ อัปเดตอย่างเรียลไทม์

IG : pan_smartmathpro

Twitter : @PanSmartMathPro

Share