มีคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้าอยู่ในใจ แต่ต้องคิดคะแนนยังไงถึงจะจัดอันดับได้เซฟที่สุด ? น้อง ๆ Dek67 คนไหนที่เล็งจะยื่นคะแนนในรอบ 3 Admission และกำลังกังวลกับเรื่องนี้อยู่ พี่มาช่วยทุกคนแล้ววว ด้วยความที่ระบบการสอบ TGAT, TPAT, A-Level เนี่ย เพิ่งจะใช้มาได้แค่สองปี ทำให้การกะคะแนนขั้นต่ำแบบเป๊ะ ๆ ก็เลยยังทำได้ยากอยู่
แต่พี่ไม่ยอมแพ้ !! วันนี้เลยจะมาแนะแนวว่า ปีนี้คะแนนประมาณไหนถึงมีลุ้นติดได้ ในบทความนี้พี่จะบอกหมดตั้งแต่วิธีการคิดคะแนนของคณะทั่วไป และกสพท (ที่สัดส่วนคะแนนเปลี่ยนกะทันหัน T_T) รวมถึงการคาดการณ์คะแนนขั้นต่ำ แถมด้วย Q&A ตอบทุกข้อสงสัยเรื่องการคำนวณคะแนน TCAS67 ไว้ท้ายบทความอีกด้วย !!
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleขั้นตอนการคิดคะแนน TCAS67
ก่อนที่เราจะมาคิดคะแนนกันได้ แน่นอนว่าสิ่งที่น้อง ๆ ต้องมีก่อนเลยนั่นก็คือ ข้อมูล นั่นเอง !! ซึ่งพี่จะขอแบ่งขั้นตอนในการเตรียมข้อมูลสำหรับการคิดคะแนนในรอบ 3 ออกเป็น 2 ขั้นตอนด้วยกัน ตามนี้เลยนะ
- ขั้นตอนที่ 1 : ให้เช็กเกณฑ์คะแนนรอบ 3 ของแต่ละมหาลัยฯ คือ สัดส่วนคะแนน, GPAX (เกรดเฉลี่ยสะสม), คะแนนขั้นต่ำแต่ละวิชา ของคณะที่อยากเข้าว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง
- ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมคะแนนของตัวเอง มาคำนวณคะแนนตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลย (แต่อย่าลืมเช็กคุณสมบัติที่คณะ / มหาลัยฯ กำหนดอีกทีน้าา)
การคำนวณเกรด (ถ้าไม่ใช้ ข้ามได้เลยน้า)
น้อง ๆ สามารถแปลงเกรดเป็น 100 โดยวิธีการนำเกรดเฉลี่ย 6 เทอมที่ได้คูณกับ 25 จากนั้นให้นำตัวเลขไป หารด้วย 100 แล้ว คูณ กับค่าน้ำหนักที่ทางมหาลัยฯ กำหนดไว้
ตัวอย่าง
ถ้าได้เกรดเฉลี่ย 3.78
Step 1 : 3.78 * 25 = 94.5
Step 2 : (94.5/100) * ค่าน้ำหนัก
หลังจากคำนวณเกรดออกมาเรียบร้อยแล้ว ให้น้อง ๆ นำตัวเลขไปรวมกับคะแนนสอบอื่น ๆ ได้เลยยย
การคิดคะแนนรอบ 3 Admission เต็ม 100 คะแนน
ให้น้อง ๆ นำคะแนนที่ได้ หารด้วย คะแนนเต็มของวิชานั้น ๆ และนำไป คูณ กับค่าน้ำหนักที่เป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่มหาลัยฯ กำหนด
ตัวอย่างที่ 1
ตัวอย่างที่ 2
ป.ล. สำหรับใครที่สงสัยว่าสรุปแล้ว TGAT เต็ม 100 หรือ 300 กันแน่ ? จริง ๆ แล้วคะแนนทั้งหมดเต็ม 300 คะแนนนะ แต่ตอนที่ ทปอ. ประกาศคะแนน เขาจะมีการคิดคะแนนเต็ม 100 มาให้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นน้อง ๆ สามารถนำคะแนนส่วนนั้นมาหารด้วย 100 ได้เลยย
ตัวอย่างภาพคะแนน TGAT แบบเต็ม 100
หมายเหตุ : ถ้าบางคณะไม่ได้ระบุเปอร์เซ็นต์มาให้ เขียนแค่วิชาที่ใช้ยื่น แปลว่าใช้สัดส่วนที่เท่ากันทุกวิชาเลยน้าา ให้น้อง ๆ นำคะแนนวิชาเหล่านั้นบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนวิชาได้เลย เช่น คณะ A ใช้คะแนน คณิต 1, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, สังคม ก็บวกกันแล้วหารด้วย 4 ได้เลย
สำหรับการคิดคะแนนรอบ 3 ของคณะทั่วไปก็จะประมาณนี้เลยยย แต่น้อง ๆ ที่สอบ กสพท ในปีนี้ คงรู้กันทุกคนแล้วว่า กสพท 67 ตัดคะแนนพาร์ตเชาวน์ออก ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนยังไม่เข้าใจว่าจะคำนวณคะแนนยังไง แต่ไม่ต้องห่วงน้าา เพราะพี่สรุปมาให้แล้ว ถ้าใครอยากลองคิดคะแนน กสพท 67 ก็คลิกไปอ่านบทความกันได้เลยยย >> คะแนน กสพท 67 คิดยังไง ? พร้อมสรุปวิธีคาดการณ์คะแนนขั้นต่ำ !
4 ขั้นตอน คาดการณ์คะแนนขั้นต่ำ คณะทั่วไป
ขอออกตัวก่อนเลยว่าหัวข้อนี้ พี่ใช้หลักการบางอย่างมาคาดคะเน รวมถึงคาดเดา เพื่อให้น้อง ๆ สามารถกะคะแนนขั้นต่ำในระบบใหม่ได้ อาจจะใช้ในการคำนวณได้คร่าว ๆ เท่านั้นน้า
ขั้นตอนที่ 1 : ลิสต์คณะและมหาลัยฯ ที่สนใจ
อยากลองยื่นคณะ / มหาลัยฯ ไหน เอาคะแนนมาให้หมด ทั้งที่อยากติดจริง ๆ รวมถึงคณะสำรองด้วย … แนะนำว่าควรเป็นคณะที่น้อง ๆ มีข้อมูลอยู่บ้างน้า ไม่อยากให้เลือกตามใคร และอย่ายึดติดที่มหาลัยฯ จนเกินไป เช่น เลือกคณะอะไรก็ได้ ขอให้เป็นมหาลัยฯ ดัง ๆ ก็พอ (ไม่เอาแบบนี้น้า > <)
ขั้นตอนที่ 2 : เทียบเกณฑ์คะแนนปี 66 และ 67
ลิสต์ไว้ให้หมดเลยนะทั้งเกณฑ์คะแนนต่าง ๆ และสัดส่วนที่ต้องใช้ว่าคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้าเนี่ย เขามีการเปลี่ยนแปลงคะแนนที่ใช้หรือสัดส่วนแต่ละวิชาไปบ้างหรือเปล่าจากปีก่อน โดยน้อง ๆ สามารถดูเกณฑ์คะแนนปี 67 ได้ที่เว็บ mytcas.com ซึ่งบางคณะ / มหาลัยฯ ยังมีเกณฑ์คะแนนของปี 66 เทียบให้ดูด้วย
ขั้นตอนที่ 3 : รู้วิธีการคำนวณคะแนน ว่าเต็ม 100 มาจากส่วนไหนบ้าง
ถ้าใครยังไม่ได้เตรียมข้อมูลและคำนวณคะแนนเอาไว้ สามารถย้อนขึ้นไปดูหัวข้อวิธีการคำนวณคะแนนด้านบนได้เลยย
ขั้นตอนที่ 4 : ดูคะแนนขั้นต่ำของคนที่สอบติดปีล่าสุด
จดคะแนนขั้นต่ำของแต่ละคณะ / มหาลัยฯ ที่เราจะใช้ยื่นไว้เลย โดยเฉพาะปีล่าสุด เพราะระบบสอบ / วิชาสอบใกล้เคียงกัน ทำให้คะแนนขั้นต่ำของปี 66 มีโอกาสที่จะคล้ายกับปีนี้มากที่สุดนั่นเองงง (แต่ว่าอาจจะต้องดูคะแนนเฉลี่ยแต่ละวิชาที่เปลี่ยนไปด้วยน้าา ถ้าคะแนนแต่ละวิชาที่เราใช้ยื่นมีการเฟ้อ / ฝืด อาจจะต้องนำคะแนนที่เปลี่ยนไปมาคำนวนเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วเอามาหักลบ / บวกเพิ่ม กับคะแนนขั้นต่ำอีกที)
ซึ่งคะแนน A-Level สามารถมองง่าย ๆ จากค่าเฉลี่ยได้เลยว่า “เฟ้อหรือฝืด” แล้วก็เอาค่าเฉลี่ยที่เปลี่ยนไปจากปีก่อน คูณด้วยเปอร์เซ็นต์น้ำหนักที่ใช้เพื่อคาดการณ์คะแนนขั้นต่ำที่เปลี่ยนไป
เช่น คณะ A ใช้คะแนน A-Level ภาษาอังกฤษ 30% ซึ่งคะแนนค่าเฉลี่ยปี 66 กับปี 67 ของภาษาอังกฤษ เทียบกันแล้วเพิ่มขึ้น 13% ก็ให้น้อง ๆ เอา 13% x 30% = 3.9% ก็เดาได้ว่าคะแนนขั้นต่ำอาจจะขึ้นมาประมาณ 3.9 คะแนน
(แต่ถ้าเอาให้ลึกจริง ๆ อาจจะต้องคาดการณ์เพิ่มว่าคนที่จะติดคณะนี้จะมีคะแนนวิชานั้น ๆ อยู่ในช่วงไหน แล้วสัดส่วนของคนที่ได้คะแนนในช่วงนั้น ๆ มีเยอะมั้ย แต่พี่ว่าอาจจะลึกไปนิดนึง)
ข้อแนะนำสำหรับการคิดคะแนน TCAS 67 รอบ 3 Admission
1. ข้อนี้สำคัญมาก !! ทุกคนจะต้องเช็กเกณฑ์คะแนน และคุณสมบัติของคณะที่อยากเข้าให้ดี ๆ ทุกคนมีสิทธิ์ในการยื่นสมัคร แต่ถ้าขาดคุณสมบัติหรือคะแนนส่วนใดไป น้อง ๆ จะถูกตัดสิทธิ์จากการคัดเลือกทันที เพราะทางมหาลัยฯ ถือว่าคุณสมบัติไม่ครบนั่นเอง T_T
*สำหรับคนที่อยากเข้าคณะแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสอบติดรอบ 1,2 และยืนยันสิทธิ์ไปแล้ว
ไม่สามารถสละสิทธิ์เพื่อมาสมัครคณะเดิมได้น้าา ถ้าสมัครก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที
2. วางแพลนการจัดอันดับให้ดีว่าจะลงสมัครกี่อันดับ แล้วจะต้องเรียงลำดับคณะหรือมหาลัยฯ ยังไง เพราะจะได้จัดอันดับออกมาได้แบบเซฟที่สุด แถมโอกาสหลุดคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้าก็น้อยลงด้วยนะ !!
3. ลองเทียบคะแนนสูงต่ำประมาณ 3 ปีย้อนหลังของคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้า ถึงแม้ว่าเกณฑ์คะแนนจะไม่เหมือนกัน แต่พี่ว่าก็ยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดอันดับของปีนี้ได้
4. ที่สำคัญ !! อย่าลืมเช็กกำหนดการต่าง ๆ ของ TCAS ให้ดีน้าา สามารถดูจากภาพด้านล่างนี้ได้เลยย
Q&A เกี่ยวกับการคิดคะแนน TCAS67
Q : สามารถยื่นสมัครคณะ / มหาลัยฯ เดียวกันหลาย ๆ อันดับได้มั้ย ?
A : สามารถสมัครได้เลยย เช่น จะยื่นสมัครบัญชี จุฬาฯ โดยยื่นคะแนนคณิต 1 เป็นอันดับแรก และอันดับสองเป็นบัญชี จุฬาฯ โดยยื่นคะแนนคณิต 2 ก็ได้ แต่น้อง ๆ ต้องดูเกณฑ์ของมหาลัยฯ ด้วยน้า เพราะบางสถาบันก็อนุญาตให้สมัครแค่
1 สาขาต่อ 1 คณะเท่านั้น
Q : จำเป็นต้องสมัครให้ครบทั้ง 10 อันดับเลยมั้ย ?
A : ไม่จำเป็นน้าา สามารถสมัครกี่อันดับก็ได้ ตามที่สะดวกได้เลย แต่พี่แนะนำว่ายื่นให้ครบ 10 อันดับจะดีกว่าน้าา เพราะน้อง ๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดอันดับเลย และเราจะได้มีตัวเลือกในการจัดอันดับเยอะขึ้น อาจเพิ่มโอกาสในการสอบติดของน้อง ๆ ก็ได้
Q : การจัดอันดับมีผลยังไง ?
A : ทปอ. จะพิจารณาอันดับที่น้อง ๆ เลือกมาทั้งหมด โดยเน้นดูจากคะแนนเป็นหลัก แต่ไม่ว่าจะยื่นสมัครกี่อันดับไปก็จะสามารถสอบติดได้แค่อันดับเดียวเท่านั้น (และคุณสมบัติต้องครบด้วย) เช่น ถ้าน้อง ๆ สอบติดอันดับ 1 ทางทปอ. ก็จะ
ไม่พิจารณาอันดับ 2-10 หรือที่เหลือเลย
แต่การจัดอันดับจะมีผลกับคะแนน ก็ต่อเมื่อมหาลัยฯ ใช้เกณฑ์ “คะแนนของลำดับที่นักเรียนเลือก” ซึ่งตอนนี้มีแค่ “มรภ.สวนสุนันทา” ใช้เกณฑ์นี้อยู่
Q : ถ้าผู้สมัคร 2 คนคะแนนเท่ากัน แต่อีกคนเลือกอันดับ 1 กับอีกคนเลือกอันดับ 4 ใครจะสอบติด ?
A : ถ้าคะแนนเท่ากัน จะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ ติดทั้งคู่ กับ หลุดทั้งคู่ จะไม่มีกรณีที่คนใดคนหนึ่งติด แล้วอีกคนหนึ่งหลุดแน่นอนนน
Q : กรณีที่มหาลัยฯ มีผู้สมัครน้อยกว่าที่จำนวนรับสมัคร คนที่สมัครไปจะสอบติดทั้งหมดเลยมั้ย ?
A : ขึ้นอยู่กับคะแนนและคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนด้วยย เช่น ถ้ารับ 10 คน มีคนสมัคร 6 คน แต่ผู้สมัครทั้งหมดคะแนนและคุณสมบัติถึงตามเกณฑ์ที่ทางมหาลัยฯ กำหนดทั้งหมด ก็จะผ่านการคัดเลือกทุกคน
แต่ถ้ามีคนผ่านเกณฑ์เพียงคนเดียว ทางมหาลัยฯ ก็จะรับแค่คนเดียวนั่นเอง และจะนำจำนวนที่เหลือไปทบกับรอบต่อไป นั่นก็คือรอบ 4 รับตรงอิสระแทน
Q : ถ้ามหาลัยฯ กำหนดคะแนน TGAT1 35% แล้วผู้สมัครได้เพียง 30 คะแนน สามารถยื่นสมัครได้มั้ย ?
A : ขึ้นอยู่กับว่า 35% นี้ เป็นค่าน้ำหนักหรือเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ ถ้าเป็นค่าน้ำหนัก น้อง ๆ สามารถยื่นสมัครได้เลยนะ เพราะมันหมายถึงใช้คะแนนทั้งหมด 35% ซึ่งยังไม่รวมกับคะแนนอื่น ๆ
แต่ถ้าเป็นเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ อันนี้จะไม่สามารถสมัครได้เพราะว่าทางมหาลัยฯ กำหนดแล้วว่าต้องได้อย่างน้อย 35 คะแนน ดังนั้นน้อง ๆ จะต้องเช็กจากระเบียบการให้ดีเลยน้า
Q : ถ้าเรามีคุณสมบัติไม่ครบ เช่น น้ำหนักไม่ถึง หรือคะแนนไม่ครบตามที่มหาลัยฯ กำหนด สามารถสมัครไปก่อนได้มั้ย ?
A : สามารถสมัครได้น้า แต่พี่ไม่ค่อยแนะนำให้สมัคร เพราะถ้าน้อง ๆ ยืนยันว่าคุณสมบัติไม่ถึงตามที่มหาลัยฯ กำหนดไว้จริง ๆ ทางมหาลัยฯ ก็จะตัดสิทธิ์อยู่ดีน้าา
Q : ถ้ามีคะแนนไม่ครบตามที่คณะกำหนด แต่คณะนั้นไม่ได้กำหนดคะแนนขั้นต่ำ สามารถยื่นสมัครได้ไหม ?
A : สามารถยื่นได้ตามปกติเลยน้าา ส่วนวิชาที่ขาดไปจะนับเป็น 0 คะแนน แต่ถ้าคณะ / มหาลัยฯ ไหนกำหนดคะแนนขั้นต่ำ
น้อง ๆ จะโดนตัดสิทธิ์ทันทีน้า เพราะถือว่าคุณสมบัติไม่ครบตามที่กำหนด
ดูคลิปแนะแนวจัดอันดับรอบ 3
ดูคลิปแนะแนวอื่น ๆ ได้ทาง YouTube Channel : SmartMathPro
และนี่คือการคาดการณ์คะแนน TCAS67 รอบ 3 Admission ทั้งหมดของพี่น้าา จริง ๆ ยังมีปัจจัยอีกเยอะมากที่ต้องเอามาคิดด้วย เช่น คะแนนจริงของคนที่ยื่นสมัคร จำนวนรับสมัคร จำนวนคนที่สมัครในปีนั้น ๆ ซึ่งไม่ว่าจะมากขึ้นหรือน้อยลงก็ส่งผลต่อการคิดคะแนนขั้นต่ำหมดเลย ดังนั้นน้อง ๆ ก็สามารถเก็บบทความนี้ไว้เป็นแนวทางในการคาดการณ์คะแนนเบื้องต้นไปก่อนได้น้า
สำหรับใครที่อ่านจบแล้ว แต่อยากคาดการณ์และคำนวณคะแนนรอบ 3 ในอีกสเต็ปนึง เช่น คำนวณความเฟ้อ – ฝืดของคะแนนแต่ละวิชา รวมถึงโอกาสสอบติดของตัวเอง พี่ก็มีตัวช่วยในการคำนวณอย่าง เครื่องมือประเมินภาพรวมความ
เฟ้อ – ฝืดของคะแนน TGAT/TPAT A-Level มาฝากทุกคนด้วยย สามารถเข้าไปลองใช้เพื่อประกอบการจัดอันดับรอบ 3 ของตัวเองดูได้เลยยย
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro