
น้อง ๆ รู้ไหมว่าเนื้อหาสังคมวิทยากันมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตรอบตัวเราทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของคนในสังคม กฎเกณฑ์ที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อคนมาอยู่รวมกัน
ซึ่งพอเป็นเรื่องรอบตัว ทำให้มีเนื้อหาเยอะมาก ๆ และเมื่อต้องนำไปเตรียมสอบ A-Level สังคมด้วย เลยทำให้หลายคนกังวล แต่วันนี้พี่ได้สรุปมาให้อ่านแบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างข้อสอบจริงให้ฝึกฝนกันอีกด้วย !
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleสังคมวิทยา คืออะไร ?
สังคมวิทยา คือ การวิเคราะห์โครงสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
พูดแบบให้เข้าใจง่าย ๆ คือ การศึกษาพฤติกรรมของผู้คนในสังคมเดียวกัน ว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างไรนั่นเอง
พี่ขอยกตัวอย่างให้น้อง ๆ เข้าใจง่าย ๆ เช่น การต่อแถวเข้าคิวซื้อของถือเป็นมารยาททางสังคมอย่างหนึ่งของมนุษย์ หรือธรรมเนียมการช่วยกันจัดงานบุญหรืองานศพของคนในหมู่บ้านก็ถือเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้คนในสังคมเดียวกันด้วย ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับสังคมวิทยาหมดเลยย
A-Level สังคม (สังคมวิทยา) ออกสอบอะไรบ้าง ?
ในปีที่ผ่านมา ข้อสอบ A-Level สังคมศึกษา พาร์ตสังคมวิทยา มักจะออกเกี่ยวกับคำศัพท์และเนื้อหาสังคมวิทยาในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
บรรทัดฐานทางสังคม
ข้อสอบจะออกเน้นเกี่ยวกับความเข้าใจคอนเซปต์ของบรรทัดฐานทางสังคม ทั้งวิถีประชา จารีต และกฎหมาย โดยมักยกตัวอย่างสถานการณ์ และถามว่าพฤติกรรมในสถานการณ์นั้นสอดคล้องกับบรรทัดฐานสังคมอย่างไร
การเลือกรับวัฒนธรรมต่างชาติและการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
ข้อสอบจะออกเน้นที่เรื่องของการเลือกรับวัฒนธรรมต่างชาติและการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย รวมไปถึงเรื่องการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีที่เหมาะสมด้วย
พีระมิดประชากร สังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย
ข้อสอบจะออกเกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวโน้มของจำนวนประชากร โดยมีการยกแผนภาพพีระมิดประชากรขึ้นมาประกอบให้เป็นข้อมูลในการตอบคำถาม ว่าลักษณะการเพิ่มหรือลดของประชากรในช่วงวัยต่าง ๆ ในอนาคตจะมีลักษณะเป็นอย่างไร และเพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น
สถาบันทางสังคม
ข้อสอบจะออกเกี่ยวกับลักษณะหน้าที่ของสถาบันทางสังคมต่าง ๆ โดยยกหน้าที่ของสถาบันทางสังคมหนึ่งขึ้นมาถามว่าสถาบันใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าที่นั้นน้อยที่สุด
สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับสังคมวิทยา
โครงสร้างทางสังคม
ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหากันนั้น พี่ขออธิบายความหมายของ โครงสร้างทางสังคม ซึ่งเป็นคำใหญ่มาก ๆ ของสังคมวิทยาก่อนน้าา โดยคำว่า โครงสร้างทางสังคม คือ ระบบความสัมพันธ์ของสถาบันต่าง ๆ ในสังคม ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มสังคม การจัดระเบียบทางสังคม และสถาบันทางสังคม โดยมีความหมาย ดังนี้
กลุ่มสังคม คือ กลุ่มคนที่มีการติดต่อสัมพันธ์กันอย่างมีระเบียบแบบแผน มีจุดหมายร่วมกัน และมีโครงสร้างพฤติกรรมคล้าย ๆ กัน และมีความรู้สึกที่เป็นสมาชิกร่วมกัน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มปฐมภูมิ
เป็นกลุ่มสังคมขนาดเล็กที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกัน มีความคุ้นเคยกัน เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนสนิท - กลุ่มทุติยภูมิ
เป็นกลุ่มสังคมขนาดใหญ่ มีความสัมพันธ์กันแบบทางการ ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว และจะติดต่อสัมพันธ์กันเฉพาะเรื่อง เช่น กลุ่มองค์กร สมาคม หน่วยงานต่าง ๆ
สถาบันทางสังคม คือ แบบแผนพฤติกรรมของสมาชิกที่มีต่อกันซึ่งสังคมเป็นผู้กำหนดขึ้น เพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในสังคม ประกอบด้วย 7 สถาบัน ได้แก่
- สถาบันครอบครัว
เป็นสถาบันพื้นฐานและสถาบันแรกที่เกิดมาพร้อมกับมนุษย์ มีหน้าที่ผลิตสมาชิกใหม่ให้สังคม คอยปลูกฝังค่านิยมให้กับสมาชิก หล่อหลอมให้สมาชิกอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข - สถาบันศาสนา
เป็นศูนย์รวมศรัทธาและที่พึ่งทางจิตใจให้แก่สมาชิกในสังคม มีหน้าที่วางกรอบความประพฤติทางด้านศีลธรรมและจริยธรรม ให้สมาชิกปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เป็นที่มาของขนบธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา - สถาบันการศึกษา
เป็นสถาบันที่มีหน้าที่พัฒนาความรู้ และถ่ายทอดความรู้ให้กับสมาชิกในสังคม รวมถึงหล่อหลอมให้สมาชิกมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีส่วนช่วยในการกำหนดสถานภาพและเลื่อนฐานะทางสังคม - สถาบันการเมืองการปกครอง
เป็นสถาบันที่มีหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัย สร้างความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยการกำหนดกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ จัดสวัสดิการพื้นฐานให้แก่สมาชิก และสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ - สถาบันเศรษฐกิจ
เป็นสถาบันที่มีหน้าที่ผลิตสินค้าและบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในสังคม และช่วยสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก - สถาบันนันทนาการ
เป็นสถาบันที่เกี่ยวกับการพักผ่อนหย่อนใจของสมาชิกในสังคม ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ - สถาบันสื่อสารมวลชน
เป็นสถาบันที่มีหน้าที่นำเสนอข่าวสารและความคิดเห็นไปสู่สังคม และถ่ายทอดค่านิยม ส่งเสริมวัฒนธรรมต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกในสังคม
การจัดระเบียบทางสังคม คือ กระบวนการที่สร้างขึ้นเพื่อจัดระเบียบพฤติกรรมของสมาชิกในสังคม เพื่อให้สมาชิกอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ประกอบไปด้วย
- สถานภาพ คือ ตำแหน่งที่ได้จากความสัมพันธ์ทางสังคม เป็นตัวกำหนดว่าเราเป็นใครในสังคม โดยคนคนหนึ่งสามารถมีได้มากกว่า 1 สถานภาพ โดยสถานภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
– สถานภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เช่น เพศ อายุ ความเป็นลูก หลาน น้อง
– สถานภาพที่ได้มาภายหลัง เช่น อาชีพ ตำแหน่ง ยศ สถานะการศึกษา - บทบาท คือ พฤติกรรมหรือสิ่งที่สังคมคาดหวังให้เราปฏิบัติตามสถานภาพ เป็นตัวกำหนดว่าเราควรทำอย่างไร เช่น หากเรามีสถานภาพเป็นครู มีบทบาทคืออบรมสั่งสอนนักเรียนให้เป็นคนดีของสังคม โดยบุคคลจะแสดงบทบาทไม่ได้หากอยู่คนเดียว เช่น ครูอยู่คนเดียว ไม่มีนักเรียนก็สอนไม่ได้
- บรรทัดฐานสังคม คือ มาตรฐาน กฎเกณฑ์ และระเบียบที่กำหนดว่าการกระทำใดถูกหรือผิดตามที่สังคมยอมรับ ในแต่ละสังคมจะมีบรรทัดฐานที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วย
– วิถีประชา หรือ วิธีชาวบ้าน คือ สิ่งที่ชาวบ้านทำกันจนกลายเป็นความเคยชิน มักเกี่ยวกับมารยาท และเรื่องทั่วไปในชีวิต มีผลกระทบกับสังคมส่วนน้อย หากละเมิดจะถูกลงโทษเพียงเล็กน้อย เช่น ถูกนินทา หรือตำหนิ
ตัวอย่างวิธีประชา เช่น การแต่งกายในงานแต่งงานหรืองานศพ การพูดสุภาพกับผู้ใหญ่ การกล่าวคำทักทาย
– จารีต คือ แบบแผนที่เคร่งครัดกว่าวิถีประชา มักเกี่ยวข้องกับศีลธรรม ค่านิยม และอุดมการณ์ของสังคม เช่น การที่ลูกด่าทอหรือทำร้ายพ่อแม่ การที่สีกาอยู่ในที่ลับตากับพระสงฆ์สองคน
ก็จะถือว่าผิดจารีตและถูกลงโทษจากสังคม และเนื่องจากจารีตมักกระทบต่อสังคมโดยรวม ทำให้ถูกลงโทษอย่างรุนแรงกว่าวิถีประชา เช่น ถูกรุมประชาทัณฑ์ ถูกไล่ออกจากสังคม
– กฎหมาย คือ ข้อบังคับของรัฐ ที่มีการกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจน ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสังคม โดยทุกคนในสังคมต้องปฏิบัติตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะเป็นทางการมากกว่าวิถีประชาและจารีต เช่น กฎหมายจราจร กฎหมายแรงงาน กฎหมายมรดก
ความเชื่อ คือ สิ่งที่คนแต่ละคนในสังคมมีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความเชื่อเรื่องการทำบุญ ความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับ หากเป็นความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน ความเชื่อนั้นอาจพัฒนาเป็นค่านิยมได้
ค่านิยม คือ สิ่งที่คนในสังคมมองว่าดีหรือควรกระทำ (แต่ถ้าวัดจากบรรทัดฐานของสังคมอื่นอาจจะไม่ดีก็ได้) เช่น
บางสังคมมีค่านิยมเกี่ยวกับการเคารพผู้อาวุโส มักมองว่าเด็กต้องมีความนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ แต่หากตัดสินจากแนวคิดเรื่องมนุษย์ทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน การเชื่อฟังผู้ใหญ่อาจไม่ใช่เรื่องจำเป็น
วัฒนธรรม
วัฒนธรรม คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นจากการเรียนรู้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสังคม ทำให้แต่ละสังคมมีความแตกต่างกัน โดยวัฒนธรรมถือเป็นมรดกของสังคม เพราะสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาและยุคสมัย เช่น ในอดีตคนไทยนุ่งโจงกระเบน แต่ปัจจุบันแต่งกายตามแบบสากล
วัฒนธรรมแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
- คติธรรม คือ คำสอน หลักในการดำเนินชีวิตต่าง ๆ เช่น สุภาษิต คำพังเพย คติประจำใจ
- วัตถุธรรม คือ สิ่งที่จับต้องได้ เช่น สมาร์ตโฟน รถยนต์ สมุดบันทึก
- เนติธรรม คือ กฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ เช่น กฎหมายอาญา ระเบียบการใช้ห้องสมุด
- สหธรรม คือ มารยาทต่าง ๆ เช่น มารยาทในการรับประทานอาหาร มารยาทในการแต่งกายไปสถานที่สำคัญทางศาสนา
ปรากฏการณ์ทางสังคม
ปรากฏการณ์ในสังคม คือ ปรากฏการณ์ที่มนุษย์ในสังคมกระทำขึ้น ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์
เมื่อมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม จะเกิดปรากฏการณ์ขึ้นในสังคมมากมายทั้งดีและไม่ดี จนก่อให้เกิดเป็นความรู้และทักษะต่าง ๆ โดยในปัจจุบันมีปรากฏการณ์ทางสังคมที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่น่าสนใจหลายอย่าง
เช่น คนในสังคมบางส่วนไม่นับถือศาสนา การที่คนในสังคมนิยมอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยว และการยอมรับ
ความหลากหลายทางเพศสภาพที่เพิ่มขึ้นจนนำไปสู่ครอบครัวที่มีทั้งคู่สมรสข้ามเพศ พ่อแม่ที่เป็นคู่ชายรักชาย
หรือคู่หญิงรักหญิง
เตรียมสอบ A-Level สังคมกับ SmartMathPro
พี่ขอแนะนำตัวช่วยอย่าง คอร์สเตรียมสอบมหาลัยฯ ของ SmartMathPro เลยย มีให้เลือกมากมายทั้งสนาม TGAT / TPAT หรือ A-Level และสอนโดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาด้วยไม่ว่าจะเป็น พี่ปั้น, อ.ขลุ่ย, พี่หมออู๋,
ครูกอล์ฟ, พี่ลัคกี้, พี่เกม GAT ENG COOL COOL, พี่ฟาร์ม
โดยในแต่ละคอร์สจะสอนปูพื้นฐานแบบละเอียด อิงตาม Test Blueprint ปีล่าสุด (ใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็สามารถเรียนได้) พร้อมพาตะลุยโจทย์แบบไต่ระดับ ตั้งแต่โจทย์ซ้อมมือไปจนถึงข้อสอบเก่าหรือโจทย์ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง แถมยังแจกเทคนิคในการทำข้อสอบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนให้อีกด้วย สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สมัครตอนนี้ รับฟรี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ประจำเดือน ถ้าใครสนใจ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดแต่ละคอร์สได้เลยยย
ทิศทางแนวข้อสอบ A-Level สังคม (สังคมวิทยา)
สำหรับทิศทางของข้อสอบสังคมวิทยา จากที่พี่ได้ลองวิเคราะห์ข้อสอบในช่วง 2-3 ปีที่มาผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีข้อสอบในพาร์ตนี้ประมาณ 3-4 ข้อ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนจำนวนข้อที่ค่อนข้างมาก
แต่ในแต่ละข้อจะมีเนื้อหาที่ไม่ยากมาก ถ้าเทียบกับพาร์ตกฎหมายหรือการเมืองการปกครอง ซึ่งพี่มองว่าถ้าน้อง ๆ สามารถเก็บพาร์ตของสังคมวิทยาได้ทั้งหมดก็จะช่วยทำคะแนนได้เยอะเลยย
ลักษณะของข้อสอบพาร์ตนี้ ส่วนใหญ่มักจะไม่ถามตรง ๆ แต่เน้นการนำความรู้เกี่ยวกับหลักการของเรื่องนั้นมาใช้ในการตอบคำถาม เช่น เรื่องของบรรทัดฐานทางสังคม จะไม่ถามเรื่องความหมายโดยตรง แต่จะมีการยกสถานการณ์ขึ้นมาและตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น ๆ แทน
นอกเหนือจากส่วนของคำถามที่เน้นไปที่การวิเคราะห์ ข้อสอบในพาร์ตนี้ยังมีลักษณะของการถามถึง ข้อใดเหมาะสมที่สุด เช่น การเลือกรับวัฒนธรรมต่างชาติที่เหมาะสม การเป็นพลเมืองดีที่เหมาะสม
ซึ่งพี่มองว่าเป็นข้อที่สามารถอาศัยประสบการณ์นำมาปรับใช้ในการทำข้อสอบได้ไม่ยาก แต่ถึงจะเป็นพาร์ตที่ไม่ยากและมีเนื้อหาน้อย แต่น้อง ๆ ควรอ่านและทบทวนเนื้อหาในส่วนนี้เอาไว้ให้มาก ๆ ห้ามประมาทเด็ดขาดเลยน้าา
ตัวอย่างข้อสอบ A-Level สังคม (สังคมวิทยา)

ตอบ ตัวเลือกที่ 4
การที่นายเอกนั่งเฉยและไม่ยกมือไหว้คุณป้าโบว์ที่ได้รู้จักกันในงานมงคลถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับวิถีประชา ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำกันจนกลายเป็นความเคยชิน มักเกี่ยวกับมารยาท และเรื่องทั่วไปในชีวิต เช่น การพูดสุภาพกับผู้ใหญ่ การกล่าวคำทักทาย
โดยตัวเลือกที่ 4 แอมแต่งกายด้วยเสื้อสีชมพูไปร่วมงานศพของเพื่อนสนิท เพราะเป็นสีที่ผู้เสียชีวิตชอบมาก ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับวิถีประชา เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องมารยาทและสิ่งที่ปฏิบัติกันจนเป็นความเคยชิน ซึ่งเป็นหลักที่กระทบต่อสังคมเป็นส่วนน้อย ทำให้ถูกลงโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น ถูกนินทา หรือตำหนิ

ตอบ ตัวเลือกที่ 5
การเลือกรับวัฒนธรรมต่างชาติเหมาะสม ควรคำนึงถึงหลักการต่าง ๆ เช่น การรักษาวัฒนธรรมรากเหง้าเดิมของตน ไปพร้อม ๆ กันการพิจารณารับวัฒนธรรมต่างชาติที่เหมาะสมกับสังคมของตน โดยเปิดใจรับสิ่งใหม่ ไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ และทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากการรับวัฒนธรรมนั้น ๆ เข้ามาปรับใช้ด้วย
จบไปแล้วสำหรับเนื้อหาสังคมวิทยาพร้อมตัวอย่างข้อสอบให้ทำเพิ่มเติม แต่ถ้าใครอยากฝึกทำข้อสอบมากกว่านี้ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแบบฝึกหัดสังคมวิทยา ได้เลยน้าา อย่างไรก็ตาม พี่เชื่อว่าหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว
น้อง ๆ จะสามารถวางแผนเตรียมอ่านหนังสือสอบได้อย่างถูกต้องแน่นอน
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ

ทีมวิชาการสังคม
ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดทำคอร์สเรียนร่วมกับพี่ติวเตอร์
และผู้เขียนบทความวิชาการสังคมของสถาบัน SmartMathPro

ทีมวิชาการสังคม
ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดทำคอร์สเรียนร่วมกับพี่ติวเตอร์
และผู้เขียนบทความวิชาการสังคมของสถาบัน SmartMathPro
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro
Lemon8 : @pan_smartmathpro