หน้าหลัก > เนื้อหาวิชาการ > คณิต ม.ต้น > รวมสูตรคณิตศาสตร์ ม.ต้น ที่ควรรู้ ใครกำลังเตรียมสอบ ดูเลย!
รวมสูตรคณิตศาสตร์ ม.ต้น ที่ควรรู้ ใครกำลังเตรียมสอบ ดูเลย!

คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีเนื้อหาและสูตรค่อนข้างเยอะมากก ทำให้บางครั้งน้อง ๆ ใช้สูตรคณิตผิดหรือลืมบางสูตรไปได้
พี่เลยทำสรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.ต้น ที่สำคัญมาให้ ไม่ว่าจะนำไปทบทวนความรู้หรือท่องก่อนสอบก็นำไปใช้ได้เลย
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันนน

เลขยกกำลัง

สมบัติของเลขยกกำลัง

เมื่อ a เป็นจำนวนใด ๆ ที่ไม่เท่ากับ 0 และ m,n เป็นจำนวนเต็ม

  • a^{-n}=\frac{1}{a^{n}}
  • a^{m}\times a^{n} =a^{m+n}
  • \frac{a^{m}}{a^{n}} =a^{m-n}

สัญกรวิทยาศาสตร์ (Scientific notation)

A \times10^{n} เมื่อ 1≤ A<10 และ n เป็นจำนวนเต็ม

ทศนิยมและเศษส่วน

การเปรียบเทียบเศษส่วนสามารถทำได้โดยทำส่วนให้เท่ากันก่อนเปรียบเทียบ

การบวกและลบเศษส่วน

  • เศษส่วนที่มีส่วนเท่ากัน
    • การบวก : \frac{a}{b}+\frac{c}{b}=\frac{a+c}{b} เมื่อ b\neq 0
    • การลบ : \frac{a}{b}-\frac{c}{b}=\frac{a-c}{b} เมื่อ b\neq 0
  • เศษส่วนที่มีส่วนไม่เท่ากัน
    • การบวก : \frac{a}{b}+\frac{c}{d}=\frac{ad+cd}{bd} เมื่อ b, d\neq 0
    • การลบ : \frac{a}{b}-\frac{c}{d}=\frac{ad-cd}{bd} เมื่อ b, d\neq 0
  • เศษส่วนจำนวนคละ
    • การบวก: a\frac{b}{c}+d\frac{e}{f}=\left(a+d\right)+\left(\frac{b}{c}+\frac{e}{f}\right) เมื่อ c, f\neq 0
    • การลบ : a\frac{b}{c}-d\frac{e}{f}=\left(a-d\right)+\left(\frac{b}{c}-\frac{e}{f}\right) เมื่อ c, f\neq 0

การคูณและหารเศษส่วน

  • การคูณ : \frac{a}{b}\times \frac{c}{d}=\frac{ac}{bd} เมื่อ b, c, d\neq 0
  • การหาร : \frac{a}{b}\div \frac{c}{d}= \frac{a}{b}\times \frac{d}{c}=\frac{ad}{bc} เมื่อ b, c, d\neq 0

หมายเหตุ : จำนวนที่มีเครื่องหมายเหมือนกัน จะคูณหรือหารกัน ได้จำนวนบวก และเครื่องหมายต่างกัน
จะคูณหรือหารกัน ได้จำนวนลบ

รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ

หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ

หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติเป็นรูปเรขาคณิตสองมิติแบบต่าง ๆ โดยจะขึ้นอยู่กับแนวการตัดของระนาบ
ตำแหน่งที่ตัด และชนิดของรูปเรขาคณิตสามมิติ เช่น

  • ถ้าใช้ระนาบตัดในแนวขนานกับฐานของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก จะได้หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
  • ถ้าใช้ระนาบตัดในแนวที่ไม่ตั้งฉากและไม่ขนานกับฐานของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก จะได้หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
  • ถ้าใช้ระนาบตัดใกล้จุดยอดมุมของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก จะได้หน้าตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม
  •  ถ้าใช้ระนาบตัดพีระมิดฐานสามเหลี่ยมในแนวตั้งฉากกับฐาน จะได้หน้าตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม
  • ถ้าใช้ระนาบตัดทรงกระบอกในแนวขนานกับฐาน จะได้หน้าตัดเป็นวงกลม
  • ถ้าใช้ระนาบตัดทรงกระบอกในแนวตั้งฉากกับฐาน จะได้หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
  • ถ้าใช้ระนาบตัดกรวยในแนวตั้งฉากกับฐานผ่านจุดยอด จะได้หน้าตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม
  • ถ้าใช้ระนาบตัดกรวยในแนวเฉียงที่ไม่ขนานและไม่ตั้งฉากกับฐาน โดยไม่ผ่านฐานและจุดยอด จะได้หน้าตัดเป็นวงรี
  • ถ้าใช้ระนาบตัดทรงกลมในแนวใด ๆ ก็ตาม จะได้หน้าตัดเป็นวงกลม

การเขียนภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง และภาพด้านบน

  • รูปเรขาคณิตสามมิติ : เขียนจากการมองรูปเรขาคณิตสามมิติตามทิศทางที่แสดง โดยแนวสายตาตั้งฉากกับด้านที่มอง
  • รูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์ : เขียนจากการมองรูปเรขาคณิตสามมิติตามทิศทางที่แสดง
    พร้อมทั้งเขียนตัวเลขแสดงจำนวนลูกบาศ์ โดยผลรวมของจำนวนที่แสดงไว้ในภาพด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน
    แต่ละภาพเท่ากัน และเท่ากับจำนวนลูกบาศ์ที่นำมาประกอบเป็นรูปนั้น ๆ ด้วย

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

วิธีแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

การแก้สมการจะใช้สมบัติของการเท่ากันในการหาคำตอบ เมื่อ a, b และ c แทนจำนวนจริงใด ๆ

  • สมบัติสมมาตร : ถ้า a=b แล้ว b=a
  • สมบัติถ่ายทอด : ถ้า a=b และ b=c แล้ว a=c
  • สมบัติการเท่ากันเกี่ยวกับการบวก : ถ้า a=b แล้ว a+c=b+c
  • สมบัติการเท่ากันเกี่ยวกับการคูณ : ถ้า a=b แล้ว ca=cb

อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ

อัตราส่วน

อัตราส่วน a ต่อ b สามารถเขียนแทนด้วย a:b หรือ \frac{a}{b}

อัตราส่วนที่เท่ากัน

สามารถหาได้ 2 วิธี

  • หลักการคูณ : นำจำนวนใด ๆ ที่ไม่เท่ากับศูนย์คูณทุกจำนวนของอัตราส่วนด้วยจำนวนเดียวกัน จะได้อัตราส่วนใหม่ที่เท่ากับอัตราส่วนเดิม
    เช่น a:b=a\times c : b\times c โดย c\neq 0
  • หลักการหาร : นำจำนวนใด ๆ ที่ไม่เท่ากับศูนย์หารทุกจำนวนของอัตราส่วนด้วยจำนวนเดียวกัน จะได้อัตราส่วนใหม่ที่เท่ากับอัตราส่วนเดิม
    เช่น a:b=\frac {a}{c} : \frac{b}{c} โดย c\neq 0

การเปรียบเทียบการเท่ากันของอัตราส่วน

ทำได้ 3 วิธี

  • การทำส่วนให้เท่ากัน
  • การทำให้เป็นอัตราส่วนอย่างต่ำ
  • การคูณไขว้

การหาอัตราส่วนต่อเนื่อง

จากอัตราส่วนของจำนวนสามจำนวน a:b:c เราสามารถเขียนอัตราส่วนของจำนวนทีละสองจำนวนได้เป็น a:b,
b:c และ a:c

สำหรับจำนวนบวก m ใด ๆ จะได้ว่า a:b=am:bm และ b:c=bm:cm ดังนั้น a:b:c=am:bm:cm

ในทำนองเดียวกัน ถ้ามีอัตราส่วนของจำนวนที่มากกว่าสามจำนวน ก็สามารถใช้หลักการเดียวกันนี้
เช่น a:b:c:d=am:bm:cm:dm เมื่อ m แทนจำนวนบวกใด ๆ

กราฟและความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน

สมการเส้นตรง

  • y=mx+c เมื่อ m= ความชัน และ c= ระยะตัดแกน Y

สูตรคณิตศาสตร์ ม.2

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง

รากที่สอง

รากที่สองของ a คือ จำนวนจริงที่ยกกําลังสองแล้วได้ a
รากที่สองของ a มีสองราก คือ

  • รากที่สองที่เป็นบวก แทนด้วยสัญลักษณ์ \sqrt{a}
  • รากที่สองที่เป็นลบ แทนด้วยสัญลักษณ์ -\sqrt{a}

สมบัติของรากที่สอง

กําหนดให้ a, b≥0

  • ถ้า a<b แล้ว \sqrt{a}<\sqrt{b}
  • \sqrt{a}\cdot\sqrt{b}=\sqrt{ab}
  • \frac{\sqrt{a}}{\sqrt{b}}=\sqrt{\frac{a}{b}} โดยที่ b\neq 0
  • \left(\sqrt{a}\right )^2=a

รากที่สาม

รากที่สามของ a คือ จำนวนจริงที่ยกกําลังสามแล้วได้ a เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ \sqrt[3]{a}

สมบัติของรากที่สาม

กําหนดให้ a,b เป็นจำนวนจริง

  • ถ้า a<b แล้ว \sqrt[3]{a}<\sqrt[3]{b}
  • \sqrt[3]{a}\cdot\sqrt[3]{b}= \sqrt[3]{ab}
  • \frac{\sqrt[3]{a}}{\sqrt[3]{b}}=\sqrt[3]{\frac{a}{b}} โดยที่ b\neq 0
  • \left(\sqrt[3]{a}\right )^3=a

ทฤษฎีบทพีทาโกรัส

สำหรับรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใด ๆ ถ้า a และ b เป็นด้านประกอบมุมฉาก และ c เป็นด้านตรงข้ามมุมฉาก
จะได้ว่า c^2=a^2+b^2

ปริซึมและทรงกระบอก

ปริซึม

  • สูตรหาพื้นที่ผิว = ( 2 \times พื้นที่ฐาน) + (ความยาวรอบฐาน \times ความสูง)
  • สูตรหาปริมาตร = พื้นที่ฐาน \times ความสูง

ทรงกระบอก

  • สูตรหาพื้นที่ผิว =2\pi r^2+2\pi rh
  • สูตรหาปริมาตร =\pi r^2h

หมายเหตุ : เมื่อ r แทนรัศมีของฐานของทรงกระบอก และ h แทนความสูงของทรงกระบอก

การแปลงทางเรขาคณิต

การหาพิกัดของจุดที่ได้จากการเลื่อนขนาน ไป x หน่วย

  • A(a, b) เลื่อนขวา จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(a+x, b)
  • A(a, b) เลื่อนซ้าย จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(a-x, b)
  • A(a, b) เลื่อนขึ้นบน จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(a, b+x)
  • A(a, b) เลื่อนลงล่าง จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(a, b-x)

การหาเวกเตอร์ของการเลื่อนขนาน

กำหนดให้ A^{\prime}(a^{\prime}, b^{\prime}) เป็นจุดที่ได้จากการเลื่อนขนาน A(a, b)

  • a^{\prime}-a (ปลาย – ต้น)
    • ได้จำนวนบวก : เลื่อนขวา \left|a^{\prime}-a \right| หน่วย
    • ได้จำนวนลบ : เลื่อนซ้าย \left|a^{\prime}-a \right| หน่วย
  • b^{\prime}-b (ปลาย – ต้น)
    • ได้จำนวนบวก : เลื่อนขึ้น \left|b^{\prime}-b \right| หน่วย
    • ได้จำนวนลบ : เลื่อนลง \left|b^{\prime}-b \right| หน่วย

การหาพิกัดของจุดที่ได้จากการสะท้อน โดยมีเส้นตรงต่อไปนี้เป็นเส้นสะท้อน

  • A(a, b) สะท้อนข้ามแกน X จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(a, -b)
  • A(a, b) สะท้อนข้ามแกน Y จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(-a, b)
  • A(a, b) สะท้อนข้ามเส้นตรง y=x จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(b,a)
  • A(a, b) สะท้อนข้ามเส้นตรง y=-x จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(-b, -a)

การหาสมการของเส้นตรงที่เป็นเส้นสะท้อน

กำหนดให้ A^{\prime}(a^{\prime}, b^{\prime}) เป็นจุดที่ได้จากการสะท้อน A(a, b)

  • ถ้า a=a^{\prime} (y เปลี่ยนแปลง) แล้ว เส้นสะท้อนคือ y=\frac{b+b^{\prime}}{2}
  • ถ้า b=b^{\prime} (x เปลี่ยนแปลง) แล้ว เส้นสะท้อนคือ x=\frac{a+a^{\prime}}{2}
  • ถ้าพิกัดตัวหน้าและตัวหลังของ A และ A^{\prime} สลับกันแล้ว เส้นสะท้อนคือ y=x
  • ถ้าพิกัดตัวหน้าและตัวหลังของ A, A^{\prime} สลับกัน และเป็นจำนวนตรงข้ามแล้ว เส้นสะท้อนคือ y=-x

การหาพิกัดของจุดที่ได้จากการหมุน โดยมีจุดกำเนิดเป็นจุดหมุน

  • A(a, b) หมุนตามเข็ม 90^{\circ} จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(b,-a)
  • A(a, b) หมุนทวนเข็ม 90^{\circ} จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(-b,a)
  • A(a, b) หมุนตามเข็ม 180^{\circ} จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(-a,-b)
  • A(a, b) หมุนทวนเข็ม 180^{\circ} จะได้พิกัดใหม่เป็น A^{\prime}(-a,-b)

สมบัติของเลขยกกำลัง

ให้ a เป็นจำนวนจริงและ n เป็นจำนวนเต็มบวก

a^{n}=a \times a\times a\times \cdots \times a (a คูณกันทั้งหมดเป็นจำนวน n ตัว)

และ a เป็นจำนวนจริงใด ๆ ที่ไม่เท่ากับ 0

a^0=1 และ a^{-n}=\frac{1}{a^{n}}

สมบัติของเลขยกกำลัง

เมื่อ a,b เป็นจำนวนจริงใด ๆ ที่ไม่เท่ากับ 0 และ m,n เป็นจำนวนเต็ม

  • a^{m}\times a^{n} =a^{m+n}
  • a^{m} \div a^{n} =a^{m-n}
  • \left( a^{m} \right)^{n}=a^{mn}
  • \left( ab\right)^{n}=a^{n}b^{n}
  • \left( \frac{a}{b} \right)^{n}=\frac{a^{n}}{b^{n}}

พหุนาม

เอกนาม

  • ผลบวกหรือผลลบของเอกนาม = (ผลบวกหรือผลลบของสัมประสิทธิ์) \times (ส่วนที่อยู่ในรูปของตัวแปรหรือการคูณกันของตัวแปร)
  • ผลคูณหรือผลหารของเอกนามกับเอกนาม = (ผลคูณหรือผลหารของสัมประสิทธิ์) \times (ตัวแปรคูณหรือหารกันโดยใช้สมบัติของเลขยกกำลัง)

พหุนาม

  • ผลบวกหรือผลลบของพหุนาม หาจากการบวกหรือลบพจน์ที่คล้ายกันเข้าด้วยกัน
  • การคูณพหุนามกับพหุนาม หาจากการคูณกระจายเข้าไปในทุก ๆ พจน์
  • การหารพหุนามด้วยเอกนาม หาจากการหารแต่ละพจน์ของพหุนามด้วยเอกนามที่เป็นตัวหาร

การแยกตัวประกอบพหุนามดีกรีสอง

กำหนดให้ A แทนพจน์หน้า และ B แทนพจน์หลัง

  • กำลังสองสมบูรณ์
    • A^2+2AB+B^2= \left(A+B\right )^2
    • A^2-2AB+B^2= \left(A-B\right )^2
  • ผลต่างของกำลังสอง
    • A^2-B^2= \left(A-B\right )\left(A+B\right )

สถิติ(2)

  • ค่าเฉลี่ยเลขคณิต = \frac{ผลบวกของข้อมูลทั้งหมด}{จำนวนข้อมูล}
  • มัธยฐาน หาจากการนำข้อมูลเรียงจากน้อยไปมาก หรือเรียงจากมากไปน้อย และพิจารณาข้อมูลที่อยู่ตรงกลางหรือค่าเฉลี่ยของข้อมูลคู่ที่อยู่ตรงกลาง
  • ฐานนิยม ดูจากข้อมูลที่มีความถี่สูงสุดในข้อมูลชุดนั้น

สูตรคณิตศาสตร์ ม.3

อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวใช้สมบัติของการไม่เท่ากัน (properties of inequality) ในการหาคำตอบ

สมบัติการบวกของการไม่เท่ากัน

ให้ a และ b แทนจำนวนจริงใด ๆ

  • ถ้า a<b แล้ว a+c<b+c
  • ถ้า a>b แล้ว a+c>b+c
  • ถ้า a≤b แล้ว a+c≤b+c
  • ถ้า a≥b แล้ว a+c≥b+c

สมบัติการคูณของการไม่เท่ากัน

ให้ a และ b แทนจำนวนจริงใด ๆ และ c แทนจำนวนจริงบวก

  • ถ้า a<b แล้ว ac<bc
  • ถ้า a ≤ b แล้ว ac ≤ bc
  • ถ้า a>b แล้ว ac>bc
  • ถ้า a≥b แล้ว ac≥bc

ให้ a และ b แทนจำนวนจริงใด ๆ และ c แทนจำนวนจริงลบ

  • ถ้า a<b แล้ว ac>bc
  • ถ้า a ≤ b แล้ว ac≥bc
  • ถ้า a>b แล้ว ac<bc
  • ถ้า a≥b แล้ว ac ≤ bc

การแยกตัวประกอบพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสอง

การแยกตัวประกอบพหุนามดีกรีสาม

กำหนดให้ A แทนพจน์หน้า และ B แทนพจน์หลัง

  • ผลบวกของกำลังสาม : A^3+B^3=\left(A+B\right)\left(A^2-AB+B^2\right )
  • ผลต่างของกำลังสาม : A^3-B^3=\left(A-B\right)\left(A^2+AB+B^2\right )
  • กำลังสามสมบูรณ์ :
    • A^3+3A^2B+3AB^2+B^3=\left(A+B\right)^3
    • A^3-3A^2B+3AB^2-B^3=\left(A-B\right)^3

การแยกตัวประกอบพหุนามดีกรีสูงกว่าสาม

ให้จัดรูปพหุนามให้อยู่ในรูปดังต่อไปนี้ ก่อนแยกตัวประกอบ

  • ผลต่างของกำลังสอง
  • กำลังสองสมบูรณ์
  • ผลบวกของกำลังสาม
  • ผลต่างของกำลังสาม
  • ใช้แนวคิดจากการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง

สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

รูปทั่วไปของสมการกำลังสองตัวแปรเดียว

  • ax^2+bx+c=0 เมื่อ a,b และ c เป็นค่าคงตัว โดยที่ a\neq 0

วิธีแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

วิธีที่ 1 แทนค่าตัวแปร
วิธีที่ 2 ถ้าแยกสองวงเล็บได้ง่าย

  • แยกตัวประกอบพหุนามดีกรีสองในรูป ax^2+bx+c=0 (แยก 2 วงเล็บ)

วิธีที่ 3 ถ้าแยกสองวงเล็บได้ยาก

  • จัดรูปโดยใช้สูตรกำลังสองสมบูรณ์
  • ใช้สูตร x=\frac{-b \pm \sqrt{b^2 – 4ac} }{2a} โดยคำตอบจะมี 3 ลักษณะ ได้แก่
    • ถ้า b^2-4ac>0 จะมี 2 คำตอบ
    • ถ้า b^2-4ac=0 จะมี 1 คำตอบ
    • ถ้า b^2-4ac<0 สมการจะไม่มีคำตอบที่เป็นจำนวนจริง

ผลบวกและผลคูณของคำตอบของสมการ

ax^2+bx+c=0 เมื่อ a,b และ c เป็นค่าคงตัว โดยที่ a\neq 0 และ b^2-4ac>0

  • ผลบวกของคำตอบ คือ -\frac{b}{a}
  • ผลคูณของคำตอบ คือ \frac{c}{a}

พาราโบลา (ฟังก์ชันกำลังสอง)

สมการของพาราโบรา (สมการฟังก์ชันกำลังสอง)

y=ax^2+bx+c เมื่อ a,b และ c เป็นค่าคงตัว โดยที่ a\neq 0

กราฟของพาราโบลา (สมการฟังก์ชันกำลังสอง)

จัดสมการ y=ax^2+bx+c ให้อยู่ในรูป y=a\left ( x-h \right )^2+k
โดยจุดยอดของพาราโบลาสามารถหาได้จากสูตร (h, k) = \left (-\frac{b}{2a},\frac{4ac-b^2}{4a}\right)

สถิติ (3)

การหาควอร์ไทล์

วิธีการหาควอร์ไทล์ (Q) ในตำแหน่งต่าง ๆ มีขั้นตอนดังนี้

  • เรียงข้อมูลจากน้อยไปหามาก
  • หามัธยฐานของข้อมูลทั้งหมด ซึ่งค่าที่ได้นั้นจะเป็น Q_{2}
  • หามัธยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่มีลำดับต่ำกว่า Q_{2} จะได้ค่าดังกล่าวคือ Q_{1}
  • หามัธยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่มีลำดับสูงกว่า Q_{2} จะได้ค่าดังกล่าวคือ Q_{3}

การสร้างแผนภาพกล่อง

  • เรียงข้อมูลจากน้อยไปหามาก
    หาค่าต่ำสุดของข้อมูล, ค่าสูงสุดของข้อมูล, Q_{1}, Q_{2}, Q_{3}
  • เขียนสเกลและนำค่าที่ได้มาลงจุด
  • สร้างกล่อง
  • สร้างวิสเกอร์
วิธีสร้างแผนภาพกล่อง

พื้นที่ผิวและปริมาตร (พีระมิด กรวย และทรงกลม)

พีระมิด

  • สูตรหาพื้นที่ผิว
    • พื้นที่ฐาน + พื้นที่ผิวข้าง
    • พื้นที่ฐาน + (\frac{1}{2}\times ความยาวรอบรูปของฐาน \times ส่วนสูงเอียง)
  • สูตรหาปริมาตร =\frac{1}{3}\times พื้นที่ฐาน \times ความสูง

กรวย

  • สูตรหาพื้นที่ผิว = พื้นที่ฐาน +พื้นที่ผิวข้าง หรือ =\pi r^2+\pi rl
  • สูตรหาปริมาตร =\frac{1}{3}\pi r^2h

หมายเหตุ : เมื่อ r แทนรัศมีของฐานกรวย, l แทนส่วนสูงเอียงของกรวย และ h แทนความสูงของกรวย

ทรงกลม

  • สูตรหาพื้นที่ผิว = =4\pi r^2
  • สูตรหาปริมาตร = =\frac{4}{3}\pi r^3

หมายเหตุ : เมื่อ r แทนรัศมีของทรงกลม

ความน่าจะเป็น

  • ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ P(E)=\frac{จำนวนผลลัพธ์ของเหตุการณ์  n(E)}{จำนวนผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการทดลองสุ่ม  n(S)}

อัตราส่วนตรีโกณมิติ

อัตราส่วนตรีโกณมิติของมุม A

  • \text{sin}A = \frac{ข้าม}{ฉาก}
  • \text{cos}A = \frac{ชิด}{ฉาก}
  • \text{tan}A = \frac{ข้าม}{ชิด}

ค่าอัตราส่วนตรีโกณมิติของมุม 30^{\circ}, 45^{\circ}, 60^{\circ}

อัตราส่วนตรีโกณมิติของมุม 30 45 60

ติวคณิตศาสตร์กับ SmartMathPro

น้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่แม่นในเนื้อหา อยากได้คนช่วยแนะนำแนวทางนการเตรียมสอบ หรืออยากได้คนช่วยไกด์แนวทางให้

สำหรับน้อง ๆ ม.3 ที่ต้องการเก็บเกรดวิชาคณิตศาสตร์ให้ปัง ๆ แต่เคยลองทบทวนเนื้อหาด้วยตัวเองแล้ว ยังเจอจุดที่ไม่เข้าใจและอยากให้มีคนช่วยไกด์

พี่ขอแนะนำตัวช่วยอย่าง คอร์สคณิต ม.3 สอนโดยพี่ปั้น SmartMathPro ให้เลยย โดยแพ็กนี้จะสอนเนื้อหาทุกบททั้งเทอม 1 และเทอม 2 สอนสนุก เข้าใจง่าย (ใครพื้นฐานไม่ดีก็เรียนได้สบายมากก > <) พร้อมพาตะลุยโจทย์และมีแบบฝึกหัดให้แบบจัดเต็ม ไต่ระดับตั้งแต่แนวซ้อมมือ ข้อสอบในโรงเรียน และข้อสอบแข่งขัน ถ้าใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรคณิต ม.ต้น ที่ควรรู้ที่พี่เอามาฝาก จะเห็นว่ามีสูตรค่อนข้างเยอะเลยน้าา แต่พี่เชื่อว่าถ้าน้อง ๆ จำสูตรเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้แก้โจทย์และทำข้อสอบได้เร็วขึ้นด้วย และสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากได้โจทย์หรือแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ม.ต้น ก็สามารถเข้าไปดูที่ คลังข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น ได้น้าา บอกเลยว่ามีโจทย์ให้ฝึกมือเพียบบ

บทความ แนะนำ

บทความ แนะนำ

ทำไมต้องติวคณิตศาสตร์ กับ SmartMathPro
ติวคณิตศาสตร์กับ พี่ปั้น SmartMathPro ดียังไง มาดู !!
สรุปเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ต้น ม.1 ม.2 ม.3
คณิตศาสตร์ ม.ต้น (ม.1 ม.2 ม.3) หลักสูตรใหม่ สสวท. เรียนอะไรบ้าง?
คณิตศาสตร์ ม.2 เรียนอะไรบ้าง อิงตาม สสวท.
คณิตศาสตร์ ม.2 เทอม 1, เทอม 2 เรียนอะไรบ้าง อัปเดตล่าสุดจาก สสวท.
คณิตศาสตร์ ม.3
คณิตศาสตร์ ม.3 เทอม 1, เทอม 2 เรียนอะไรบ้าง ? อัปเดตตาม สสวท.
แจกฟรีข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น ม.ปลาย ฟรี
แจกฟรี ! โจทย์และข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น ม.ปลาย พร้อมเฉลย

พี่ออม ทีมบทความ SmartMathPro
ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มศว
พี่สาวที่หลงใหลในเสียงเพลงและรักในการเขียนบทความ ไม่ว่าจะเป็นบทความแนะแนว TCAS หรือบทความแนะแนวการศึกษา พี่ก็พร้อมทำเพื่อน้อง ๆ ที่ฝันอยากเข้ามหาลัยฯ ทุกคน !

พี่ออม ทีมบทความ SmartMathPro
ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มศว
พี่สาวที่หลงใหลในเสียงเพลงและรักในการเขียนบทความ ไม่ว่าจะเป็นบทความแนะแนว TCAS 
หรือบทความแนะแนวการศึกษา พี่ก็พร้อมทำเพื่อ
น้อง ๆ ที่ฝันอยากเข้ามหาลัยฯ ทุกคน !

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่

Line : @smartmathpronews

FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น 

IG : pan_smartmathpro

X : @PanSmartMathPro

Tiktok : @pan_smartmathpro

Lemon8 : @pan_smartmathpro

Share