Part of Speech คืออะไร? สรุปเข้าใจง่ายพร้อมมายแมพ นำไปใช้ได้เลย!

Part of Speech เป็นเนื้อหาพื้นฐานภาษาอังกฤษที่น้อง ๆ หลายคนเรียนกันมาตั้งแต่ประถมและยังเป็นเนื้อหาที่สามารถนำไปต่อยอดได้มากมาย เช่น การแต่งประโยคหรือการฝึกจับใจความภาษาอังกฤษ เป็นต้น

แต่เนื้อหา Part of Speech ยังเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจวิธีการใช้อยู่ ซึ่งวันนี้พี่จะมาสรุปความหมาย ประเภท และวิธีการใช้ของ Part of Speech ให้น้อง ๆ ได้อ่านกัน หลังจากอ่านแล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลยทันที !!

สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย

Part of Speech คืออะไร ?

Parts of speech คือ ชนิดหรือประเภทของคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่ละคำก็มีหน้าที่และตำแหน่งของคำในประโยคแตกต่างกันไป

Part of Speech มีอะไรบ้าง ?

เราสามารถแบ่ง Parts of Speech ตามหน้าที่ได้ 8 ประเภท ได้แก่ Noun (คำนาม), Pronoun (คำสรรพนาม),
Verb (คำกริยา), Adjective (คำคุณศัพท์), Adverb (คำกริยาวิเศษณ์), Preposition (คำบุพบท), Conjunction
(คำสันธาน) และ Interjection (คำอุทาน) ไปดูหน้าที่ของคำแต่ละประเภทกันเลยยย

Noun (n.) คำนาม

คำนาม (nouns) คือ คำที่ใช้เรียกสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ความรู้สึก แนวคิด คุณสมบัติ สภาพอากาศ โดยแบ่งออกเป็นประเภทย่อยต่าง ๆ ได้ดังนี้

Proper Noun (คำนามเฉพาะ) : ชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เช่น Lisa, Moo Deng, Thailand, Tiktok
Common Noun (คำนามทั่วไป) : ใช้เรียกสิ่งต่าง ๆ ทั่วไป เช่น dog, student, market
Concrete noun (คำนามรูปธรรม) : เป็นคำนามที่เราสามารถมองเห็น สัมผัส ดมกลิ่น หรือได้ยินได้ เช่น tree, lemon, wallet, phone
Abstract noun (คำนามนามธรรม) : เป็นคำนามที่เราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้โดยตรง มักเป็นแนวคิด อารมณ์ หรือคุณสมบัติ เช่น love, freedom, kindness
Collective Nouns (สมุหนาม) : เป็นคำนามที่ใช้เรียกกลุ่มของสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของ เช่น a band of musicians, a bouquet of flowers
Countable Noun (คำนามนับได้) : สิ่งที่สามารถนับจำนวนได้ เช่น banana, table, book
Uncountable Noun (คำนามนับไม่ได้) : สิ่งที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ เช่น water, salt, butter

ตัวอย่างประโยคของ Noun (คำนาม)

The cat is sleeping on the sofa. (แมวกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา)
She dreams of visiting Paris one day. (เธอฝันอยากไปปารีสสักวันหนึ่ง)
A flock of birds flew across the sky. (ฝูงนกบินข้ามท้องฟ้า)

Pronoun (pron.) คำสรรพนาม

คำสรรพนาม (pronouns) คือ คำที่ใช้เรียกแทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวซ้ำ เช่น I, you, we they, he, she, it และคำสรรพนามตัวอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน ตามตารางด้านล่างนี้

ตัวอย่างประโยคของ Pronoun (คำสรรพนาม)

She is my best friend. (เธอเป็นเพื่อนรักของฉัน)
He always helps his little brother. (เขามักจะช่วยน้องชายของเขาเสมอ)

Verb (v.) คำกริยา

คำกริยา (verbs) คือ คำที่บอกการกระทำ หรือสถานะของประธานในประโยค แบ่งออกเป็นประเภทย่อยต่าง ๆ ได้ เช่น

Action verb (กริยาแสดงการกระทำ) : เป็นกริยาที่บอกการกระทำที่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ เช่น run, sleep, eat, read, write
Stative verb (กริยาแสดงสภาวะ) : เป็นกริยาที่ไม่มีการกระทำ จะเป็นกริยาที่แสดงความรู้สึก หรือการรับรู้ เช่น know, like, love, believe
Auxiliary verb หรือ Helping verb (กริยาช่วย) : เป็นกริยาที่ช่วยให้ประโยคมีความหมายสมบูรณ์ แบ่งออกเป็น v. to be (is, am, are, was, were), v. to have (has, had), v. to do (does, did)
Modal verb (กริยาช่วยแสดงความเป็นไปได้/ความจำเป็น) : ใช้เพื่อแสดงระดับความเป็นไปได้ ความสามารถ คำแนะนำ หรือความจำเป็น เช่น will, would, can, could, shall, should, may, might, must

ตัวอย่างประโยคของ Verb (คำกริยา)

She runs every morning. (เธอวิ่งทุกเช้า)
I cooked dinner for my family yesterday. (ฉันทำอาหารเย็นให้ครอบครัวเมื่อวานนี้)
He can swim very fast. (เขาสามารถว่ายน้ำได้เร็วมาก)

Adjective (adj.) คำคุณศัพท์

คำคุณศัพท์ (adjectives) คือ คำที่ใช้ขยายคำนามหรือคำสรรพนาม เพื่อบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของสิ่งนั้น เช่น ลักษณะหรือคุณสมบัติ เพื่อให้ชัดเจนขึ้น ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น เช่น cute, fast, good, tall, easy, expensive, weak

ตัวอย่างประโยคของ Adjective (คำคุณศัพท์)

The weather is very hot today. (อากาศร้อนมากวันนี้)
Avatar is an interesting movie. (อวตารเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจ)

Adverb (adv.) คำวิเศษณ์

คำวิเศษณ์ (adverbs) คือ คำที่ใช้ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์อื่น ๆ หลายคำมักจะลงท้ายด้วย -ly เช่น very, usually, slowly, politely, now, never

ตัวอย่างประโยคของ Adverb (คำวิเศษณ์)

Chompoo speaks English fluently. (ชมพู่พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง)
They always arrive on time. (พวกเขามาถึงตรงเวลาตลอด)

Preposition (prep.) คำบุพบท

คำบุพบท (prepositions) คือ คำที่ใช้เชื่อมโยงคำนามหรือคำสรรพนามในประโยค เพื่อบอกความสัมพันธ์ของคำนั้น ๆ กับใจความหลักของประโยค ไม่ว่าจะเป็นการบ่งบอกเวลา สถานที่ ทิศทาง ตำแหน่ง เช่น with, to, in, on, at, before, after, by, from

ตัวอย่างประโยคของ Preposition (คำบุพบท)

She walked into the room. (เธอเดินเข้าไปในห้อง)
He is sitting between his parents. (เขากำลังนั่งอยู่ระหว่างพ่อแม่ของเขา)

Conjunction (conj.) คำสันธาน

คำสันธาน (conjunctions) คือ คำที่ใช้เพื่อเชื่อมคำ กลุ่มคำ หรือประโยค เพื่อให้ใจความของประโยคที่ต้องการส่ือสารมีความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น and, but, or, so, because, although, therefore, whereas

ตัวอย่างประโยคของ Conjunction (คำสันธาน)

I like coffee and tea. (ฉันชอบทั้งกาแฟและชา)
She wanted to go out, but it was raining. (เธออยากออกไปข้างนอก แต่ฝนตก)
Because I was so tired, I went to bed at 9 pm. (เพราะว่าฉันเหนื่อยมาก จึงเข้านอนตอนสามทุ่ม)

Interjection (interj.) คำอุทาน

คำอุทาน (interjections) คือ คำที่ใช้แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกของผู้พูด เช่น Wow!, Oops!, Hmm, Whoa!, Eww!, Ahem!, Oh!

ตัวอย่างประโยคของ Interjection (คำอุทาน)

Yeah! We won the game! (เย้! เราชนะเกมแล้ว!)
Ouch! That really hurts. (โอ๊ย! นั่นเจ็บมาก)

Mindmap สรุป Part of Speech

ติว A-Level ภาษาอังกฤษกับ SmartMathPro

พี่ขอแนะนำตัวช่วยอย่าง คอร์สเตรียมสอบมหาลัยฯ ของ SmartMathPro เลยย มีให้เลือกมากมายทั้งสนาม TGAT / TPAT หรือ A-Level และสอนโดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาด้วยไม่ว่าจะเป็น พี่ปั้น, อ.ขลุ่ย, พี่หมออู๋,
ครูกอล์ฟ, พี่ลัคกี้, พี่เกม GAT ENG COOL COOL, พี่ฟาร์ม

โดยในแต่ละคอร์สจะสอนปูพื้นฐานแบบละเอียด อิงตาม Test Blueprint ปีล่าสุด (ใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็สามารถเรียนได้) พร้อมพาตะลุยโจทย์แบบไต่ระดับ ตั้งแต่โจทย์ซ้อมมือไปจนถึงข้อสอบเก่าหรือโจทย์ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง แถมยังแจกเทคนิคในการทำข้อสอบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนให้อีกด้วย สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สมัครตอนนี้ รับฟรี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ประจำเดือน ถ้าใครสนใจ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดแต่ละคอร์สได้เลยยย

จบแล้วน้าสำหรับการสรุปเนื้อหาเรื่อง Part of Speech ครบทั้ง 8 ประเภท ถ้าใครอยากจะแม่นเนื้อหาเรื่องนี้ แนะนำว่าให้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ตามวิธีที่น้อง ๆ สะดวกได้เลยย

นอกจากนี้ Part of Speech ยังเป็นส่วนที่ออกสอบในข้อสอบ TGAT และ A-Level อีกด้วย โดยที่น้อง ๆ จะเจอในรูปแบบของข้อสอบ error, หา main idea ของ reading หรืออื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับคนที่แม่นเนื้อหาเรื่องนี้ ก็จะได้เปรียบ
อย่างมาก